หิ้ว”ส้มตำ”มอบให้พรรคเพื่อไทย ร้องขอความเป็นธรรม หวังพบพรรคอนาคตใหม่แต่ถูกปฏิเสธ ได้แต่”แห้ว”กลับบ้าน
‘หมวดเจี๊ยบ’ ชี้ กรณีไสว คือบทเรียนจากความรุนเเรง แนะ ‘ประยุทธ์’ อย่าสร้างเงื่อนไข เผชิญหน้าประชาชน หวั่นเหตุรุนเเรงและการสูญเสีย
วันที่ 6 สิงหาคม 2561 เวลา 10.30 น. นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย นำนายไสว ทองอ้มและนางสุข ยาจิต เหยื่อถูกยิงจนพิการที่แขนในการชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ปี 2552 เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อพรรคเพื่อไทย โดยมี ร้อยโทหญิงสุนิสา ทิวากรดำรง หรือ หมวดเจี๊ยบ แกนนำพรรคเพื่อไทย เป็นผู้มารับหนังสือร้องเรียน พร้อมกับได้มอบกระเช้า ผัก มะละกอ สำหรับทำส้มตำ ซึ่งนายไสว กล่าวว่า นำมาจากที่นาของตน โดยมอบให้เพื่อบอกถึงความทุกข์และความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นกับตนและครอบครัว โดยหมวดเจี๊ยบได้สอบถามความเป็นมาของการถูกยึดที่ดินทำกินในรายละเอียด กรณีศาลฎีกายกฟ้องคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากกองทัพและสั่งให้ นายไสว จ่ายค่าธรรมเนียมศาลและจ่ายค่าทนายจำเลย จำนวน 212,114 บาท โดยเป็นค่าทนายซึ่งก็คืออัยการ ถึง 60,000 บาท และถูกยึดที่นาขนาด 8 ไร่ 3 งาน 42 ตารางวา ขายทอดตลาด หลังจากถูกยึดทรัพย์ในบัญชีกว่า 5,000 บาท ไปแล้ว
นายไสว ทองอ้ม และนางสุข ยาจิตภรรยา ระบุว่านอกจากมีความทุกข์ใจแสนสาหัสที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ที่สำคัญคือไม่อยากให้ที่ดินผืนสุดท้ายที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษต้องสูญเสียไปและครอบครัวต้องตกอยู่ในสภาพสิ้นเหนือประดาตัว พร้อมฝากถึงผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ พิจารณาหรือชี้แจงความคืบหน้าจากที่เคยได้ยื่นขอให้ยุติการบังคับคดีไป เพราะเรื่องยังเงียบอยู่
ดังนั้น จึงต้องเข้าร้องทุกข์กับพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคอนาคตใหม่หลังจากนี้ ในฐานะพรรคการเมืองที่จะเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชนที่เดือดร้อนได้ โดยจะเดินทางร้องทุกข์กับทุกหน่วยงานหรือองค์กรที่พอเป็นที่พึ่งของความเป็นธรรมต่อไป
ร้อยโทหญิงสุนิสา กล่าวว่า จะนำส่งเรื่องของนายไสว ทองอ้ม ให้ผู้บริหารพรรค เพื่อประสานงานหรือดำเนินการทุกอย่างภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ ของพรรคที่มีอยู่ขณะนี้ อย่างไรก็ตาม กรณีนายไสว ต้องเป็นบทเรียนให้ผู้มีอำนาจตระหนักถึงความสูญเสียและผลกระทบต่อประชาชนจากการใช้ความรุนแรงทางทหาร
ทางด้านนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย กล่าวว่า หลังจากที่ได้ยื่นหนังสือถึงพรรคเพื่อไทยแล้วได้เดินทางไปพบนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เพื่อขอความร่วมมือให้พรรคอนาคตใหม่ให้เป็นปากเสียงให้กับนายไสว ในครั้งนี้ แต่ปรากฏว่า นายธนาธรปฏิเสธที่จะให้เข้าพบในประเด็นดังกล่าว ทำให้นายไสว และภรรยาต้องเดินทางกลับ และยังหวังว่าจะได้นัดหมายเข้าพบนายธนาธรในโอกาสต่อไป
“ การเป็นคนจนแบบนายไสว ทองอ้ม ในประเทศไทย อย่าว่าแต่จะร้องขอเศษเสี้ยวความเป็นธรรมที่ยังไม่ได้จากกองทัพไทยเลย แม้แต่พรรคการเมืองที่ทำท่าพอจะมีอนาคตใหม่อยู่บ้าง ยังไม่ใยดีต่อชะตากรรมของคนจนแบบนี้ เราคงได้ยินได้ฟังเพียงแค่วาทศิลป์จากลมปากกันเพลิดเพลินเท่านั้น “ นายสมยศ กล่าวในที่สุดและยืนยันว่า สัปดาห์หน้า นายไสว จะเดินทางมาร้องหาความเป็นธรรมต่อไปอีกแม้ว่าอาจต้องหิ้วแห้วกลับบ้าน
———————————————————————-