ข่าว

กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยขยายแนวรบต้านบิ๊กตู่เป็นประธานอาเชี่ยน


กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยขยายแนวรบต้านบิ๊กตู่เป็นประธานอาเชี่ยน

เมื่อวันที่ 28  พฤศจิกายน 2561  นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ได้เดินทางมาถึงสำนักงานเลขาธิการอาเซียนตั้งอยู่ที่ 70A Jl. Sisingamangaraja Jakarta Indonesia   โดยได้ยื่นหนังสือถึงนายเล เลือง มินห์ (Le Luong Minh) เลขาธิการอาเซียนคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นชาวเวียดนาม (Vietnam) และเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของเวียดนาม ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการอาเซียนคนที่ 13  ผ่าน ผู้อำนวยการแผนกชุมชนสัมพันธ์ Community Relation Division เรียกร้องให้ การประชุม Asian Summit  ปี 2562 ที่กรุงเทพ ได้มีการทบทวนตำแหน่งประธานอาเชี่ยน หากพลเอกประยุทธ์สืบทอดอำนาจเผด็จการทหารผ่านการเลือกตั้งได้สำเร็จ  ซึ่งขณะนี้มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นประธานอาเชียนตามการหมุนเวียนประเทศเรียงตามตัวอักษร 

นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กล่าวว่า กฎบัตรอาเชี่ยนกำหนดให้ประเทศสมาชิกเคารพหลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน แต่เนื่องจากพลเอกประยุทธ์ เป็นรัฐบาลเผด็จการ ทำลายประชาธิปไตยและละเมิดสิทธิมนุษยชน อันเป็นการขัดต่อกฎบัตรอาเชี่ยน หากนายประยุทธ์ยังคงดำรงตำแหน่งประธานอาเชี่ยนไม่เพียงแต่จะทำให้ประเทศไทยได้รับการอับอายขายขี้หน้าต่อนานาอารยประเทศเท่านั้น ประเทศอาเชี่ยนจะได้รับความมัวหมองตามไปด้วย  จึงเดินทางมาที่อินโดนีเซียเพื่อมาเสนอให้สำนักงานเลขาธิการอาเชี่ยนและรัฐบาลอินโดนีเซีย ผลักดันให้การประชุมAsian Summit ในปีหน้าหยิบยกประเด็นประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยเพื่อกำหนดท่าทีของอาเชี่ยนต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานอาเชี่ยนที่มีภูมิหลังเกี่ยวข้องกับการปราบปรามคนเสื้อแดงในปี 2553 และการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ยังคงมีนักโทษการเมืองถูกคุมขังอยู่ 72 คนด้วยกัน 

DEMOCRACY RESTORATION GROUP
24 JUNE DEMOCRACY MOVEMENT
Email  : somyotfreedom@gmail.com / lookkate.thicha@gmail.com     /Phone : +66 65 5575005

Jakarta 28 November 2018

Kepada YTH: The ASEAN Secretariat
UP: Community Relation Division
Jalan Sisingamangaraja 70A, Kebayoran Baru
Jakarta Selatan – Jakarta 12110, Indonesia
Tel : (62-21) 7262991, 7243372
Email : public@asean.org

วาระประชาธิปไตยในที่ประชุมสุดยอดอาเชี่ยน

คัดค้านการดำรงตำแหน่งประธานอาเชี่ยนของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

อาเซียนมี 10 ประเทศสมาชิก มีประชากรกว่า 583  ล้านคน หรือ 9  เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก มูลค่าการค้าคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.3 ของจีดีพีโลก  อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ GDP 1,275 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ  2 %  ของ GDP โลก  เป็นภูมิภาคที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก และมีแนวโน้มก้าวสู่อันดับ 4 ของโลก

การรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเชี่ยน เป็นการการสร้างสันติภาพและความมั่นคง และความร่วมมือการพัฒนาเศรษฐกิจ ทั้งนี้ผู้นำอาเซียนได้ลงนามรับรองกฎบัตรอาเซียน ในการประชุมสุดยอดยอดเซียน ในโอกาสครบรอบ 40 ของการก่อตั้งอาเซียน แสดงเห็นถึงความก้าวหน้าของอาเซียนที่กำลังจะก้าวเดินไปด้วยกันอย่างมั่นใจระหว่างประเทศสมาชิกต่าง ๆ ทั้ง 10 ประเทศ ได้ให้สัตยาบันกฎบัตรอาเซียน เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน2551 ว่ารัฐสมาชิก จะได้ยึดมั่นและปฏิบัติตามพันธกรณีในหลักการแห่งประชาธิปไตย นิติธรรม และธรรมาภิบาล การเคารพและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน (Adhereing  to the principle of democracy the rule of law and good governance ,respect for and protection of human  rights and  fundamental freedoms) ภายใต้คำขวัญของอาเชี่ยนที่ว่า วิสัยทัศน์เดียว อัตลักษณ์เดียวและประชาคมเดียว( “ One Vision , One Identity ,One community)

กฎบัตรอาเซียนสร้างกลไกตรวจสอบและติดตามการดำเนินการตามความตกลงต่างๆ ของประเทศสมาชิกเช่น  การให้ มีการ หมุนเวียนตำแหน่งประธานอาเชี่ยนทุกปี บนพื้นฐานของลำดับอักษรของชื่อภาษาอังกฤษของรัฐสมาชิก ซึ่งในปี 2562 ไทยเข้ารับตำแหน่งประธานอาเชี่ยนต่อจากสิงคโปรโดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยเข้ารับตำแหน่งต่อจากนาย ลีเซียนลุงแห่งสิงคโปร เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 จึงกลายเป็นว่า   ประธานอาเชี่ยนโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะปฏิบัติต่อพันธกรณีต่อกฎบัตรอาเชี่ยน ให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์อาเชียนได้อย่างไรกัน ?   ในเมื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้ทำการรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ในปี 2557  แล้วจัดตั้งรัฐบาลเผด็จการทหารที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนและละเมิดเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนคนไทยอย่างรุนแรง  อันเป็นการขัดต่อกฎบัตรของอาเชี่ยนโดยตรง  กล่าวคือ

  • ในปี พ.ศ. 2553 ในขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ภายใต้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยในขณะนั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กระทำอาชญากรรมรัฐ (State Crime) ใช้กองกำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ทำให้มีประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจากเหตุการณ์เศร้าสลดนี้ร่วม 100 ราย  โดยศาลไทยยังไม่มีการไต่สวนการกระทำความผิดของรัฐในครั้งนี้
  • วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก เข้ายึดและควบคุมอำนาจรัฐบาลรักษาการของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดย 4 ปีรัฐประหารที่ผ่านมา รัฐบาลทหารออกกฎหมายจำกัดสิทธิเสรีภาพมีมากว่า 500 ฉบับ มีคำสั่งหัวหน้าคณะรัฐประหารมาตรา44 ที่ให้อำนาจสูงสุด เป็นกฎหมายบังคับใช้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดครอบคลุมทุกประเด็นใช้ไปแล้วกว่า 160 คำสั่ง

มีคนไทยไม่เห็นด้วยกับอำนาจเผด็จการเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และ ถูกจับกุมจากการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่างน้อย 597 คน ทหารเรียกเข้าค่ายทหารอย่างน้อย 1,318 คน  ตั้งข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างน้อย(ม.112) 94 คน  ข้อหาปลุกปั่นประชาชน(ม.116)อย้างน้อย 91 คน พลเรือนต้องขึ้นศาลทหาร อย่างน้อย 1,886 คน  ปัจจุบันมีนักโทษการเมือง ที่ถูกคุมขังในเรือนจำมีอยู่ถึง 72 คน

  1.     ไม่เพียงแต่ทหารจะมีอำนาจการเมืองสูงสุด ตุลาการถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือการสร้างความชอบธรรมให้ทหารอีกด้วย ศาลไทยรับรองการรัฐประหารกลายเป็นรัฏฐาธิปัตย์   ยอมให้คำสั่งของคณะรัฐประหารชอบด้วยกฎหมายตลอดไปและทำการนิรโทษกรรมให้กับเผด็จการทหารอีกด้วย
  2. รัฐบาลเผด็จการทหารยกร่างรัฐธรรมนูญ แล้วทำการลงประชามติภายใต้คำสั่งเผด็จการทหาร กำหนดกฎเกณฑ์ทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ แทรกแซงการเลือกตั้ง ให้นายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องมาจากการเลือกตั้งก็ได้ แต่งตั้งวุฒิสภา250 คน โดยหวังสืบทอดอำนาจเผด็จการทหารผ่านการเลือกตั้ง โดยมีการเลื่อนการเลือกตั้งด้วยข้ออ้างๆมาถึง4 ครั้งแล้ว แม้ว่าจะกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 แต่ยังไม่มีความแน่นอน อีกทั้งรัฐบาลทหารยังดำรงไว้ซึ่งคำสั่งเผด็จการในการควบคุมการแสดงความคิดเห็นและห้ามการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนขึ้นไปอีกด้วย จึงทำให้การเลือกตั้งในประเทศไทยจะเป็นการเลือกตั้งสกปรกอย่างแน่นอน เพื่อการสืบทอดอำนาจของเผด็จการทหารต่อไป

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่า พลเอกประยุทธ์    จันทร์โอชา  เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะสมตามกฎบัตรอาเชียน ในการดำรงตำแหน่งประธานอาเชี่ยน เราจึงขอเรียกร้องต่อประชาคมอาเชี่ยน ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเชี่ยนในปี 2562 จำเป็นต้องทบทวนการดำรงตำแหน่งประธานอาเชี่ยนของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า สมควรจะได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่งประธานอาเชี่ยนอีกต่อไปหรือไม่ในขณะเดียวกันหาก การเลือกตั้งในประเทศไทยไม่มีความเป็นธรรม  ไม่มีความโปร่งใส  ประชาชนไม่มีสิทธิเสรีภาพ ยังมีนักโทษการเมืองถูกจองจำกว่า 72 คน และผู้ลี้ภัยการเมืองกว่า 300 คนในต่างประเทศ  นับได้ว่าเป็นการเลือกตั้งสกปรก สมควรหรือไม่จะให้ผู้นำทางการเมืองจากรัฐเผด็จการให้ดำรงตำแหน่งประธานอาเชี่ยนกันอีกต่อไป

การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 33 ที่สิงคโปร์ และพิธีส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียนแก่ประเทศไทยในปี 2562 โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในพิธีส่งมอบตําแหน่งประธานอาเซียนว่า  จะดำเนินการให้เกิดความสำเร็จในการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนที่มีความเข้มแข็งและนวัตกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ไทยจะสานต่อประเด็นที่อาเซียนได้ให้ความสำคัญในปีนี้ โดยเฉพาะเรื่องเครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียน เพื่อสร้างความต่อเนื่อง และให้เกิดผลอย่างยั่งยืนให้กับประชาคมอาเซียน  โดยที่ไม่ให้มีการกล่าวถึงความสำคัญของประชาธิปไตย  สิทธิมนุษยชน และ สิทธิเสรีภาพ ตามกฎบัตรอาเชี่ยนแต่อย่างใด

ในเมื่อกฎบัตรอาเชี่ยนมีหลักการที่ว่า ส่งเสริมอาเชี่ยนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วมและรับประโยชน์จากการรวมตัวเป็นประชาคมอาเชี่ยน( To promote a people oriented Asian in which all sectors of society are encouraged to participate in ,and benefit from the process of Asian integration and community building )  ดังนั้นประชาชนในอาเชี่ยนจึงต้องรวมตัวกันผลักดันให้การประชุมสุดยอดอาเชี่ยนในปี 2562 ไม่เพียงแต่จะต้องคัดค้านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งประธานอาเชี่ยนด้วยแล้ว ยังมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องจัดให้มีมีวาระประชาชน เพื่อกำหนดประเด็นรูปธรรมร่วมกัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในด้านการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน การส่งเสริมประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และสิทธิเสรีภาพของประชาชนในอาเชี่ยน

English Version

https://prakaifai.com/2018/12/05/democracy-agenda-in-asean-summit/

asiantu