ทนายความ”กฤษณะ” แฉ โครงการรับจำนำข้าว ถูกนำไปเป็นเครื่องมือทำลายล้าง
นส.ชญาดา ตระกูลรุ่งโรจน์ อดีตพนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รวบรวมพยานเอกสารให้อัยการยื่นฟ้องเอาผิดนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังจากได้ทักท้วงต่อผู้บริหาร ธกส.ว่า ตัวเลขความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวทึ่ใช้เป็นพยานเอาผิดนส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรไม่ถูกต้อง โดยตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นการทุจริตโดยธนาคารเสียเอง แต่กลับถูกกลั่นแกล้ง กดดัน กล่าวว่ามีปัญหาสุขภาพจิต จนกระทั่งธนาคารเลิกจ้างไปในที่สุด นส.ชญาดา จึงใช้ Face Book : chayada trakulrungrot เป็นช่องทางสื่อสาธารณะนำเสนอหลักฐานที่เป็นการส่อไปในทางทุจริต โดยนายวีระ สมความคิด ได้นำหลักฐานดังกล่าวร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเมื่อวันที่21 พฤศจิกายน ล่าสุด ปปช.ได้นัดหมายให้นส.ชญาดา นำหลักฐานที่มีใช้ประกอบสำนวนการสอบสวนในวันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม 2561
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2561 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธกส.ได้แถลงต่อสื่อมวลชนในกรณีนส.ชญาดา ถูกเลิกจ้าง โดยมี นายกฤษณะ แต้เกียรติเจริญกุล เป็นทนายความได้เดินทางมาร่วมรับฟังการแถลงในครั้งนี้ โดยทางธนาคารให้พนักงานรปภ.ควบคุมตัวไว้ ไม่อนุมัตินส.ชญาดา เข้าร่วมการรับฟังด้วยอ้างว่า นส.ชญาดา เป็นบุคคลอันตราย อาจไม่ปลอดภัย ทั้งนี้สหภาพแรงงานได้แถลงว่า ประเด็นการตรวจพบเหตุผิดปกติ โครงการรับจำนำข้าว ธนาคารได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพบข้อผิดพลาด ทุกประเด็นไม่มีการทุจริตของพนักงาน เป็นการผิดพลาดจากการปฏิบัติงานและได้มีการแก้ไขปรับปรุงบัญชีให้ถูกต้องแล้ว
นายกฤษณะ แต้เกียรติเจริญกุล ทนายความ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า พิจารณาจากรูปร่างหน้าตาของชญาดาแล้วไม่น่าจะก่ออันตรายต่อธนาคารได้ แต่เนื่องจากธนาคารเป็นเจ้าของสถานที่ย่อมมีสิทธิไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ารับฟังการแถลงของฝ่ายธนาคารได้ ทั้งนี้ตนเห็นว่านส.ชญาดา ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องทางบัญชี จึงได้ทักท้วงไปแต่กลับถูกกลั่นแกล้งให้ออกจากงาน ถือเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นว่า โครงการรับจำนำข้าวเป็นเครื่องมือทางการเมือง มากกว่าการตรวจสอบทุจริตตามปกติ จะเห็นได้ว่า เมี่อนส.ชญาดาร้องเรียนการทุจริตของธกส.ไปแล้ว รัฐบาลประยุทธ์กลับเพิกเฉยเรื่องนี้ไป นอกจากนี้ตนทราบมาว่า โรงสีข้าว ที่เก็บข้าวในโครงการรับจำนำข้าว ถูกหน่วยงานของรัฐบาลให้นำข้าวคุณภาพดีไปขายเป็นข้าวคุณภาพต่ำเพื่อใช้เป็นเครื่องมือโจมตีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ แต่กลับไม่มีการตรวจสอบเรื่องนี้ให้กระจ่าง ทั้งสองเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นแล้วว่า มีการบิดเบือนความเป็นจริงทั้งในด้านการตรวจสอบการทุจริต เป็นการให้ร้ายต่อโครงการรับจำนำข้าว คนที่ทุจริตจริงกลับลอยนวล ไม่ถูกตรวจสอบ ส่วนคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริต กลับถูกยึดทรัพย์ไปหลายหมื่นล้านบาทและถูกดำเนินคดีจนต้องหลบหนีออกนอกประเทศ
ส่วนนส.ชญาดา ตระกูลรุ่งโรจน์ ได้แจ้งผ่านทาง FB ว่า ได้ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือในกรณีที่ถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรมต่อนายประยุทธ์ มั่งมี กรรมการสหภาพแรงงานแล้วและแจ้งกำหนดการแถลงข่าว ความคืบหน้าที่ได้ร้องเรียนไป โดยเชิญฝ่ายบริหารและสหภาพแรงงานมาร่วมชี้แจง ให้สังคมรับรู้ความจริงทั้งหมดในวันที่ 11 มกราคม 2562 โดยจะแจ้งสถานที่และเวลาอีกครั้ง
สำหรับทนายความ นายกฤษณะ แต้เกียรติเจริญกุล เป็นผู้สมัครสส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคเสรีรวมไทยได้รับการมอบหมายจากที่พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้เข้ามาช่วยเหลือทางกฎหมายกับ นส.ชญาดา ตระกูลรุ่งโรจน์ ในกรณีนี้
ภาพจาก FB chayada trakulrungrot