บทความ

พลังใหม่เอเชียอาคเนย์


พลังใหม่เอเชียอาคเนย์ ( Force of Renewal South East Asia : FORSEA)
< 1>  สมยศ พฤกษาเกษมสุข

20190216_133833

เที่ยวบิน MH 0785 นำคณะตัวแทนกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย บินลัดฟ้าจากสนามบินสุวรรณภูมิ สู่เมืองกัวลาลัมเปอร์ มาเลย์เซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมกับ FORSEA องค์กรประชาชนจากการรวมตัวกันของชุมชนในเอเชียอาคเนย์ เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวหน้าในภูมิภาคนี้ FORSEA เชื่อในหลักกการสัมพันธภาพสากลของมนุษยชาติ โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างเพศ วัย สถานภาพ ความคิดการเมืองหรือความเชื่อทางศาสนา FORSEA เชื่อในหลักประชาธิปไตย ไม่ใช่เป็นแค่กระบวนการ   แต่เป็นวิถีชีวิต ไปสู่ความหวังและความปรารถนาของประชาชน

FORSEA มี Tan Wah Piow Maung Zarni Hishamuddin Rais Saskia Wieringa Nursyahbani Katjasungkana Clare Rewcastle Brown และปวิน ชัชวาลพงษ์พันธ์ จากประเทศไทย เป็นคณะกรรมการบริหาร ได้นำประชาชน นักวิชาการ นักต่อสู้เพื่อสิทธิประชาธิปไตย นักสิทธิสตรี จำนวนกว่า 100 จากไทย กัมพูชา เวียดนาม มาเลย์เซีย ฟิลิปปินส์ พม่า อินโดนีเซีย สำหรับประเทศไทยมี อานนท์ นำภา ชลธิชา แจ้งเร็ว สรัญญา แก้วประเสริฐ ภัทรจิต โชติกพาณิชย์ เนติวิทย์ โชติภัทรไพศาลและสมยศ พฤกษาเกษมสุข เป็นตัวแทนในฐานะกลุ่มเคลื่อนไหวประชาธิปไตยในประเทศไทย

ในโอกาสที่ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งได้รับชัยชนะด้วยการลงคะแนเสียงเลือกตั้ง สามารถโค่นนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลย์เซียจากพรรคอัมโนซึ่งผูกขาดการปกครองแบบเผด็จการมายาวนานมาตั้งแต่ปี 1957 เป็นการเปลี่ยนผ่านสันติวิธีทำให้องค์กรประชาชนมาเลย์เซียร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดงาน”มหกรรมประชาธิปไตย โดยจัดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้า Publika ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ระหว่างวันที่13-17 กพ.ุ/ ภายในงานมีการจัดนิทรรศการศิลปะภาพถ่าย ภาพวาด การ์ตูน การแสดงดนตรี การจำหน่ายสินค้าขององค์กรประชาชน และที่สำคัญระหว่าง 15-17 กพ.เป็นการจัดการประชุมตัวแทนองค์กรประชาธิปไตย 8 ประเทศด้วยกัน เพื่อมาร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์ประชาธิปไตยและผนึกกำลังกันเป็นเวที ภาคประชาชนคู่ขนานกับAsian

ที่สำคัญก็คือ นายกรัฐมนตรีมหาเธ์ ได้มาเป็นผู้ร่วมอภิปรายแสดงความคิดเห็นเป็นการเปิดตัวองค์กร FORSEA ในวันที่ 16 กพ. 62 ใจความสำคัญก็คือ ” ประชาธิปไตย ไม่สมบูรณ์แบบ แต่เป็นการปกครองที่ดีที่สุด ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้กำหนดความเป็นไปของบ้านเมืองและนำความเจริญก้าวหน้ามาสู่มนุษยชาติต่อไป งานนี้ปวิน ชัชวาลพงษ์พันธ์ ซึ่งรัฐบาลเผด็จการในไทยเนรเทศออกมาและประกาศห้ามคนไทยติดต่อสื่อสารกับเขา แต่ที่มาเลย์เซีย อ.ปวินได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรีมหาเธ์ ร่วมรับประทาอาหารกลางวันและได้พูดคุยเกี่ยวกับการเมืองในประเทศไทย แต่เผ็ดร้อนขนาดไหนไม่อาจรายงานมา ณ ที่แห่งนี้ได้
ตัวแทนคนไทยที่ได้เข้าไปสัมผัสมือนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ ก็คือ เนติวิทย์ โชติภัทรไพศาล ที่นำธงเหลือง ไปมอบให้พร้อมกับทักทายอย่างเป็นกันเองกับมหาเธร์

คณะของคนไทยประทับใจนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ เป็นอย่างมาก ด้วยการแต่งกายที่เรียบง่าย ไม่มีผู้คนแห่แหนกันใหญ่โต ไม่มีการจัดฉาก หรือต้องเตรียมการกันมากมาย อีกทั้งมหาเธร์ขับรถด้วยตนเองมาร่วมงานนี้ และยังได้เดินทักทายเป็นกันเองกับคณะของ FORSEA อีกด้วย

อาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้เป็นผู้บรรยายถึงสถานการณ์ประชาธิปไตยในประเทศไทย ใจความสำคัญก็คือ รัชกาลที่ 9 เป็นกษัตริย์ที่มีบารมี ( Moral Authority)สามารถสร้างสมดุลย์กลุ่มต่างๆได้เป็นอย่างดี จนมีความเป็นเอกภาพภายในชาติแต่ปัจจุบันสถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปมากแล้วเกิดกลุ่มต่างๆมากมาย ที่เข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมือง ดุลย์อำนาจไม่เหมือนเดิม จึงจำต้องติดตามดูบทบาทรัชกาลที่ 10 กันต่อไป อ.ชาญวิทย์ยังกล่าวต่ออีกว่า ในขณะที่หลายประเทศล้วนเป็นการปกครองแบบเผผด็จการเบ็ดเสร็จแต่ที่มาเลย์เซียกำลังมุ่งหน้าสู่ประชาธิปไตย สำหรับในประเทศไทยขณะนี้จะต้องทำให้การเลือกตั้งสะอาด ยุติธรรม จะเป็นทางออกการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยได้

โปรดติดตามตอนต่อไป (2)