บทความ

สังหารโหดจากตาข่ายถึงสายน้ำ(ตอน6)


อวสานรายการปฏิวัติประเทศไทย ยุทธการอุ้มฆ่าจากไทยถึงลาว  ตอนที่ 6  ( วาระสุดท้ายภูชนะ-กาสะลอง)

เหตุการณ์นองเลือด 6 ตุลาคม 2519 ทำให้นิสิตนักศึกษาประชาชนจำนวนมากต้องเข้าป่าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยจับปืนสู้กับเผด็จการทหารแต่การรัฐประหารครั้งล่าสุดในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นั้น ไม่มีป่าเขาเหลือให้หลบลี้หนีภัยเผด็จการได้เหมือนเมื่อปี 2519 สำหรับนักต่อสู้ประชาธิปไตยที่ต้องถูกเผด็จการทหาร “ ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ใช้อำนาจเถื่อนปราบปรามอย่างรุนแรงจึงต้องหลบภัยไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนใหญ่นับร้อยคนเลือกที่ไปหลบภัยอยู่ที่ประเทศลาว ด้วยเหตุผลที่ทั้งสองประเทศนั้นใช้ภาษาร่วมกันได้ และ รูปร่างหน้าตา กลมกลืนกันไป ภูชนะ หรือชัชชาญ บุปผาวัลย์ เป็นชาวมุกดาหารที่พูดภาษาลาวหรือไทยอีสานได้ดีจึงหลบภัยเผด็จการไปอยู่ที่แขวงไชยบุรี ฝั่งลาวทางตอนเหนือของไทย

เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้ลี้ภัยในลาวต้องรักษาความลับด้วยการตั้งชื่อใหม่ หรือที่เรียกกันว่า “ชื่อจัดตั้ง” ชัชชาญ บุปผาวัลย์ ตั้งชื่อตัวเองขึ้นมาใหม่ว่า ภูชนะ จากการที่ตัวเองเกิดที่อำเภอนิคมคำสร้อย ในเขตรอยต่ออุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัว  ซึ่งเมื่อก่อนเป็นเขตภูเขาฐานที่มั่น “ดาวแดง”  หรือเป็นสมรภูมิสู้รบของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในช่วงทศวรรษที่ 1960  แต่การสู้รบด้วยอาวุธสิ้นสุดลงไปหลังการพังทลายของประเทศสังคมนิยมในทศวรรษ 1970 กระนั้นก็ตามอุดมการณ์แห่ง สังคมนิยม หรือความใฝ่ฝันต่อสังคมเท่าเทียมนั้นอยู่ในความคิด ความเชื่อ ไม่ได้พังทลายไปด้วย  ชื่อ “ ภูชนะ “ จึงมีที่มาตรงที่บ้านเกิดอยู่เขตป่าเขา ส่วนชนะนั้นมาอยู่ตรงที่แขวงไชยบุรี ที่แปลว่า เมืองแห่งชัยชนะ  หลังจากอยู่ไชยบุรีได้ไม่นาน ได้มาพบกับสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ และกาสะลอง (ที่เวียงจันทร์ ทั้งสามคนเช่าบ้านพักอยู่ด้วยกันที่ท่าง่อน ห่างจากเวียงจันทร์เพียง 17กม.เท่านั้น 

ภูชนะ3ชัชชาญ บุปผาวัลย์ เกิดเมื่อ23 ธันวาคม 2505 อายุ 56 ปี เป็นชาวนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร จบการศึกษาปริญญาตรี ศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บางเขน เคยร่วมงานกับวีระพล โสภา หรือ พี่สังข๋  นักต่อสู้ภาคประชาชนและแกนนำเกษตรกรแห่งภาคอีสาน( เสียชีวิต 25 เม.ย.61)ต่อมาทั้งสองด้วยความคิดเห็นทางการเมืองไม่ตรงกัน จึงแยกทางจากกัน ภูชนะเป็นแกนนำสำคัญของคนเสื้อแดงจังหวัดมุกดาหาร นำประชาชนจากมุกดาหารเข้าร่วมการชุมนุมกับคนเสื้อแดงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ 19 กันยายน 2549 โดยทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านต่างๆให้กับผู้มาร่วมชุมนุมอย่างแข็งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับการล้อมปราบอย่างโหดร้ายจากกำลังทหารในปี 2552-2553  เป็นผลทำให้ภูชนะเกิดความโกรธแค้นต่อความไม่เป็นธรรมจากการที่คนเสื้อแดงถูกกระทำย่ำยีในทุกด้าน เขาเริ่มพบปะกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่เต็มไปด้วยความคับแค้นจากความรุนแรงทางการเมืองภายใต้คำขวัญที่ว่า “ ความยุติธรรมไม่มี ความสามัคคีไม่บังเกิด” จนได้พบและมีความสนิทสนมกับนางสาวจันทนา วรากรสกุลกิจ ต่อมาถูกจับกุมด้วยข้อหาครอบครองอาวุธสงครามและวัตถุระเบิด ซึ่งเกิดจากนายทหารพรานคนหนึ่งอ้างว่า เป็นการ์ด นปช.เป็นผู้ให้ข้อมูลกับทหารหลังการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 จนทำให้ภูชนะต้องตกเป็นเป้าหมายในการไล่ล่าและอุ้มฆ่าในเวลาต่อมา

ส่วนกาสะลอง คือ นายไกรเดช ลือเลิศ อายุ 47 ปี เป็นคน อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยกำเนิด เริ่มเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งแต่ปี 2551 สนใจแนวคิดอุดมการณ์ทางการเมืองแบบประชาธิปไตย พบและรู้จักสนิทสนมกับ อาจารย์สุรชัย  ในกลุ่มผู้ชุมนุม และคบหากันมาต่อเนื่องโดยไม่เคยทิ้งกัน ความสัมพันธ์จึงเสมือนพ่อกับลูก 

เมื่อลี้ภัยอยู่ในประเทศลาว จากการได้ร่วมสนทนาแลกเปลี่ยนประสพการณ์การต่อสู้ประชาธิปไตยกับผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ ภูชนะและกาสะลองเห็นว่า การโค่นล้มเผด็จการนั่นต้องใช้ความรู้ทางปัญญา เพื่อเอาชนะอุดมการเก่าตามประเพณีการปกครองของเผด็จการล้าหลัง เขาจึงเริ่มทำหน้าที่เป็นเสมือน ผู้ดำเนินรายการ “ ปฏิวัติประเทศไทย “ กับสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ โดยมีกาสะลองหรือนายไกรเดช ลือเลิศเป็นผู้จัดทำทางเทคนิคในการเผยแพร่ความรู้ ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงการปกครองให้เป็นแบบสาธารณรัฐ 

จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ภาพสุดท้ายของภูชนะ กาสะลองและสุรชัยปรากฏขึ้นในวันที่ 12 ธันวาคม 2561 ในช่วงตะวันตกดินกำลังนั่งเผาข้าวหลามกินอยู่ด้วยกัน 5 คน  ต่อมาในช่วงกลางดึกในวันเดียวกันนี้ ภูชนะ กาสะลอง และสุรชัยหายตัวไปไร้ร่องรอย จนกระทั่งวันที่ 27 ธันวาคม 2561 ศพของภูชนะโผล่ขึ้นมาที่หน้าวัดหัวเวียง ต.ธาตุพนม จังหวัดนครพนม ส่วนศพกาสะลองโผล่เป็นศพที่ 3 ในวันที่ 29 ธันวาคม 2561ทั้งสองศพอยู่ ในสภาพที่ใบหน้าเละด้วยถูกของแข็ง ทุบ เชือกไนล่อนรัดคอ หน้าท้องถูกคว้าน ยัดด้วยแท่งซีเมนต์ ใส่กุญแจมือ ศพห่อหุ้มด้วยกระสอบป่านและตาข่ายเล้าไก่สีเขียวแน่นหนา คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 7 วัน โดยนำศพทั้งสามคนมาหย่อนทิ้งแม่น้ำโขงสามจุดด้วยกันแต่ละจุดห่างกันราว 50 กิโลเมตร โดยวันที่ 26 ธันวาคม 2561 ศพแรกที่โผล่ขึ้นมาที่ท่าจำปา คาดว่าเป็นสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ นั้นศพถูกอุ้มหายไป ศพที่สองคือ ศพภูชนะวันที่ 27 ธันวาคม 2561 และศพที่สามโผล่ขึ้นในวันที่ 29 ธันธันวาคม 2561 ที่บ้านสำราญ ต.อาจสามารถ จึงเหลือเพียงแค่สองศพเท่านั้น

ศพของกาสะลองอยู่ที่สถาบันนิติเวช ขอนแก่น ส่วนภูชนะถูกส่งมาที่สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยไม่ปรากฏการสอบสวนในรายละเอียดเนื่องจากสภาพของศพที่ถูกแช่น้ำเป็นเวลานานเน่าเปื่อยไปแล้ว

ในวันที่ 14 มี.ค.62  พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ได้ส่งมอบศพ นายชัชชาญ บุปผาวัลย์ หรือ สหายภูชนะ อดีตการ์ด นปช. อายุ 54 ปี สหายคนสนิทของนายสุรชัย แซ่ด่าน แกนนำคนเสื้อแดง ที่สถาบันนิติเวชวิทยา พร้อมกับพูดคุยกับ นายกึกก้อง บุปผาวัลย์ อายุ 27 ปี ลูกชายของนายชัชชาญ โดยลูกชายได้ฝากศพไว้กับนิติเวชอีกระยะหนึ่ง

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นแล้ว จึงดำเนินการคืนศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศล และแพทย์ได้ลงความเห็นว่า เสียชีวิตผิดธรรมชาติ ส่วนการดำเนินคดีอาญาอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตว่า เสียชีวิตที่ไหน ใครเป็นคนทำให้เสียชีวิต ซึ่งพนักงานสอบสวนเตรียมประสานอัยการสูงสุดในการประสานประเทศเพื่อนบ้านเพื่อดูข้อมูลทั้งหมด

ขณะที่ พล.ต.ต.ภวัต ประทีปวิศรุต ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า แพทย์ลงความเห็นว่านายชัชชาญ เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ เนื่องจากสภาพศพเน่าเปื่อยเป็นเวลานาน ไม่สามารถบอกได้ว่าเสียชีวิตก่อนหรือหลังโยนลงน้ำ ส่วนศพมีอวัยวะอะไรหายไปบ้างตนไม่รู้ เพราะตนไม่ได้เป็นคนชันสูตรพลิกศพ.

ศพของนายภูชนะ หรือ ชัชชาญ บุปผาวัลย์ จะบำเพ็ญกุศล ที่วัด ศรีวารีน้อย ระหว่างวันที่ 4- 6 เมาษยน 2562 และประชุมเพลิงเวลา 16.00 น.วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน 2562 ขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมพิธีฌาปนกิจศพตามวันเวลาดังกล่าว

กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเป็นเจ้าภาพในวันที่ 5 เมษายน 2561 ขอเชิญผู้รักชาติ รักประชาธิปไตยและความเป็นธรรมทุกท่านมาร่วมเป็นเจ้าภาพ ร่วมเป็นเจ้าภาพในนามกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยสมทบทุนโอนเงินในนามของสมยศ พฤกษาเกษมสุข ธนาคารไทยพาณิชย์เลขที่ 202-255248-3 หรือ Messenger FB somyot pruksakasemsuk โทรแจ้ง  065-5575005

20190223_121048-1.jpgบ้านพักภูชนะที่หลบภัยที่ท่าง่อน เวียงจันทร์

20190223_121650.jpg

เสื้อผ้าภูชนะบางส่วนยังหลงเหลือในบ้านพักหลังถูกอุ้มหายตัวไปแล้ว

20190223_121637

ครัวกับภาพที่ถูกทิ้งร้างหลังจากถูกอุ้มหายไป

20190223_120941

บ้านพักหลบภัยนายกาสะลอง ไกรเดช ลือเลิศ

twoland5

“สองแผ่นดิน” บันทึกเรื่องราวเป็นกวีศิลป์แห่งความทุกข์ทรมานและความเจ็บปวดรวดร้าวจากการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของสมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่ควรค่าต่อการเป็นเจ้าของ  คำนิยมโดยวัฒน์ วรรลยางกูร กวีกบถนอกราชอาณาจักร  รายได้สนับสนุนการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยนักโทษการเมือง นำผู้ลี้ภัยกลับบ้าน  ราคา 150 บาท  ค่าส่ง 20.00 บาท รวม 170 บาท  สั่งซื้อด้วยการโอนเงิน 170.00 บาท ในนามของสมยศ พฤกษาเกษมสุข ธนาคารกรุงไทย บัญชีเลขที่ 198-0-12736-0  ส่งสลิป และแจ้งชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่ง Email มาที่ editor@prakaifai.com  หรือโทรศัพท์มาที่ 065-557-5005