The Mask ลายพราง !  Ahah !  I See you

The Mask ลายพราง !  Ahah !  I See you

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2562     นายวิษณุ เครืองาม เคยกล่าวไว้ ในเรื่อง  คำถวายสัตย์ไม่ครบตามมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญว่า “ แล้ววันหนึ่งจะทราบเองว่า ทำไมไม่ควรพูด “  วันนี้บรรดาพรรคการเมืองฝ่ายค้านก็คงจะทราบกันถ้วนหน้าแล้วว่า สิ่งที่วิษณุพูดนั้นมีนัยยะสำคัญถึงความสัมพันธ์อันเกี่ยวเนื่องกันระหว่างสถาบันกษัตริย์กับรัฐบาลเป็นอย่างดี เพราะ “วันหนึ่ง” นั้นได้กลายมาเป็นวันนี้ เมื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (27สค.62)นำพระราชดำรัสพร้อมลายพระราชหัตถ์ ซึ่งใส่กรอบอย่างดีมาแสดงให้สื่อมวลชนดู

ทั้งนี้เป็นพระราชดำรัส เมื่อวันที่ 16 กรกฏาคม ที่ให้ไว้แก่คณะรัฐมนตรี หลังที่พล.อ.ประยุทธ์นำครม.ถวายสัตย์ปฏิญาณตน    “ขอถือโอกาสนี้ ให้พรให้ท่านมีกำลังใจ ความมั่นใจ และความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้ได้ตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณ. ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สุขและความมั่นคงของประเทศชาติและประชาชน. งานใดๆ ก็ต้องมีอุปสรรค งานใดๆ ก็ต้องมีปัญหา. เพราะฉะนั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องแก้ปัญหา และเข้าหางาน เพื่อให้การบริหารประเทศ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามสถานการณ์ โดยแก้ไขให้ตรงเป้าตรงจุด และมีความเข้มแข็งอดทน.ก็ขอให้คณะรัฐมนตรีและรัฐบาลได้มีกำลังใจ มีพลังที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีด้วยความถูกต้องต่อไป”(16กค.2562)

เมื่อ องค์พระมหากษัตริย์ทรงดํารงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้  จึงต้องถือเป็นการสิ้นสุดกระบวนการถวายสัตย์แล้ว ในเมื่อทุกพรรคการเมืองต่างประกาศตน จะรักษาและธำรงไว้ซึ่งประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

การกล่าวปฏิญาณตนไม่ครบโดยตัดท่อนที่ว่า ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”ออกไปนั้น เป็นเจตนาแสดงตัวตนของการเป็นเจ้าของรัฐธาธิปัตย์ที่แท้จริงออกมาเพราะ เผด็จการทหารแม้ว่า จะเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญเสียเองก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องปฏิบัติตาม เพราะเผด็จการทหารนั้นได้ฉีก-ทำลายรัฐธรรมนูญ2550 ซึ่งพวกทหารเป็นผู้ร่างเอง แล้วร่างรัฐธรรมนูญ 2560 ยัดเยียดให้ใช้กันใหม่ รัฐธรรมนูญของเผด็จการหรือของประชาชนฉบับไหนก็ตาม มีค่าก็แค่เพียงกระดาษชำระของพวกเผด็จการทหารเท่านั้น

จะไปดีดดิ้นเรื่องนี้ทำไมกันในเมื่อเราปล่อยให้เผด็จการทหารทำการยึดอำนาจการปกครองกันตามสบายกันมาตั้งแต่รัฐประหาร 19กันยายน 2549เป็นต้นมา

สมควรแล้วที่ประเทศไทยเราจะปกครองกันแบบเผด็จการหัวสากนำโดยประยุทธ์ จันทร์โอชา  ที่ปล่อยให้มีสภาผู้แทนราษฎร เอาไว้ก็แค่ ได้พูดระบายอารมณ์และโต้วาทีกันพอเป็นพิธีให้ดูเหมือนว่า ประเทศไทยยังมีประชาธิปไตยอยู่บ้าง แม้จะเป็นประชาธิปไตยที่ไร้สาระแบบอีเอ๋ อีช่อ หรือไอ้เต้ ก็ตามที

สมควรแล้วที่ประชาชนชาวไทยจะถูกกดขี่ ถูกกดหัวลงเป็นทาส จนกว่าพวกนี้จะสิ้นลมหายใจกันไปเองหรือไม่ก็ไปฆ่าตัวตายกันตามสะดวก เพราะ มีเพียงไม่กี่คนที่ออกมาต่อสู้เรียกร้องสิทธิ เสรีภาพและประชาธิปไตย แล้วก็ต้องติดคุกติดตะราง หรือไม่ก็ถูกอุ้มฆ่าตายเหมือนหมาข้างถนน

เมื่อยอมจำนน  เมื่อไม่ต่อสู้ ไม่ลุกขึ้นสู้ ไม่มารวมตัวกันเคลื่อนไหวเรียกร้อง ก็ต้องอยู่อย่างอดอยากกันต่อไป เพื่อให้พวกชนชั้นนำ ชนชั้นอภิสิทธิ์ชน ให้พวกหมาเศรษฐีได้ครองอำนาจสุขสบายกันทั้งในประเทศนี้และที่ขี่เครื่องบินไปเที่ยวอยู่ต่างประเทศอวดความรวยมาให้เห็นกันถนัดตา

ก็เป็นเช่นนี้เอง !  คงเดากันถูกต้องทุกคน The Mask ลายพราง !  Ahah !  I See you !

สมยศ พฤกษาเกษมสุข 28.8.62

“สองแผ่นดิน” บันทึกเรื่องราวเป็นกวีศิลป์แห่งความทุกข์ทรมานและความเจ็บปวด ความหวังและการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของสมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่ควรค่าต่อการเป็นเจ้าของ  คำนิยมโดยวัฒน์ วรรลยางกูร กวีกบถนอกราชอาณาจักร  รายได้สนับสนุนการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยนักโทษการเมือง นำผู้ลี้ภัยกลับบ้าน  ราคา 150 บาท  ค่าส่ง 20.00 บาท รวม 170 บาท  สั่งซื้อด้วยการโอนเงิน 170.00 บาท ในนามของสมยศ พฤกษาเกษมสุข ธนาคารกรุงไทย บัญชีเลขที่ 198-0-12736-0  ส่งสลิป และแจ้งชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่ง Email มาที่ editor@prakaifai.com  หรือโทรศัพท์มาที่ 065-557-5005