ผมก็เคยโดนทรมานในค่ายทหารเหมือนกัน
จากกรณีนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงเกิดช็อกหมดสติ ขณะถูกควบคุมตัวภายในหน่วยซักถาม หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 43 ค่าย อิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ก่อนมีอาการสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานี เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมาและต่อมาเสียชีวิตไปแล้ว จนมีการตั้งข้อสงสัยว่าจะโดนซ้อมทรมาน
ผมเคยถูกจับตัว โดยใช้พรก.ฉุกเฉินไปไว้ที่ค่ายทหารอดิศร จังหวัดสระบุรี อยู่ที่นั่น21วัน(ราวเดือนพฤษภาคม 2553) กรณีของผมโด่งดังและเป็นที่ติดตามจึงไม่ปรากฏการทรมานทุบตีทางร่างกาย แต่การควบคุมตัวด้วยการตั้งเต๊นท์หลังคารั่ว ตั้งอยู่กลางสนามโล่งแจ้ง กลางวันร้อนจัด กลางคืนแสนหนาว มีเตียงทหารกับมุ้งให้นอน ล้อมรอบด้วยรั้วลวดหนาม 3 ชั้น มีทหารถือปืนทาโว่แน่นหนา สามชั้นกันหลบหนี แก้ผ้าอาบน้ำกับถังยางมะตอย หากต้องการถ่ายก็ต้องขออนุญาติทหารนำตัวไปห้องน้ำที่มีทหารถือปืนคุมตัวขณะขับถ่าย
นี่คือการทรมานแบบหนึ่ง โดยเป็นเพียงผู้ต้องสงสัย ไม่ปรากฏบาดแผลหรือร่องรอยการทรมาน แต่ทำให้เจ็บป่วย เครียด หวั่นวิตก ต่อมาตำรวจก็ยกฟ้อง แต่ผมถูกคุมขังให้ทรมานไปแล้ว 21 วัน โดยไม่ได้รับการเยียวยาแต่ประการใดเลย ( กำลังพิมพ์หนังสือบันทึกเรื่องนี้อย่างละเอียด โปรดติดตามนะครับ)
ตอนที่เข้าไปในคุก เจอการทุบตีนักโทษให้เห็นตำตา ผู้คุมใช้ไม้ก๊อก เป็นไม้ขนาดยาว พันด้วยยางแผ่น จนเป็นเหมือนหัวไม้ขีด ใช้สี่คนกำยำจับนักโทษนอนคว่ำลงกับพื้น แล้วทุบลงไปกลางหลัง อย่างแรง หลายครั้ง จนน่วมแล้ว ไม่เสียชีวิต ไม่ปรากฏมีบาดแผลเลย แต่ภายในปอดก็ทำให้เกิดการอักเสบแล้วติดเชื้อเสียชีวิตในเวลาต่อมา บางรายปล่อยตัวไปแล้วจึงไปเสียชีวิตอาการแบบเดียวกัน ไม่ปรากฏบาดแผล แต่ปอดพร้อมจะติดเชื้อได้ตลอดเวลา นักโทษจะแก้ปัญหาการถูกทุบตีด้วยการจับจิ้งจกเป็นๆ อ้าปาก แล้วหย่อนให้จิ้งจกเป็นๆมันวิ่งเข้าไปลำไส้ มันจะทะลวงเลือดคั่ง ฟกช้ำอยู่ภายใน แล้วไปตายในกระเพาะ เป็นยาอย่างดี อ้อ ผมช่วยจับจิ้งจกส่งให้รายนี้ด้วยแต่ไม่ทราบว่าขณะนี้ยังมีชีวิตอยู่หรือสิ้นชีพตักษัยไปแล้ว
มีเสื้อแดงรายที่ไปยิงกปปส.ไปขัดขวางเลือกตั้งเสียชีวิต อยู่ในคุกไม่กี่เดือนก็เสียชีวิต ไม่ใช่ถูกทุบตีทรมานในคุกแต่ถูกทุบตีมาก่อน ไม่แน่ใจจากค่ายทหารหรือสถานีตำรวจ หมอเหวงแกจับเรื่องนี้อยู่ จึงไม่ทราบผล มีอีกหลายรายด้วยกันถูกทรมานแบบต่างๆแต่ขอยกเว้นไม่กล่าวถึง เพียงแต่บอกว่าเขาทรมานกันด้วยรูปแบบต่างๆกันโดยไม่ต้องปรากฏร่องรอยการทรมานให้เห็นได้
สริยันต์ ก๊กเปื่อย นักโทษคดี 112 ถูกจับขังคุกก็ถูกตบบ๊องหู แล้วบังคับให้ไปทำงานหนัก ด้วยการทำถ้วยกระดาษแบบใช้แล้วทิ้ง ส่วนอากงนักโทษในคดี มาตรา 112 แก่ปานนั้นยังถูกบังคับให้ไปนั่งทำงานปั่นถ้วยกระดาษแบบเดียวกันกับสุริยันต์ เช่นกัน ผมโชคดีกว่าเพื่อน หลุดรอดการบังคับให้ต้องทำงานไปได้ เพราะกรณีผมเป็นข่าวออกไปทั่วโลก และมีคนคอยติดตามใกล้ชิด
การไม่ให้ประกันตัวอย่างกรณีสิรภพ กรณ์อรุษ สืบพยานสามปากใช้เวลาถึง 5 ปี นั่นก็โครตทรมานเลย นักโทษคดีระหว่างการพิจารณาของศาล เป็นนักโทษเต็มขั้นแล้วแต่ถูกเลือกปฏิบัติต่ำกว่านักโทษเด็ดขาด ในคดี ฆ่า ข่มขื่นด้วย นี่ก็เป็นการทรมานในอีกรูปแบบหนึ่ง ขังยาวไม่ให้ประกันตัวสู้คดี เพื่อให้นักโทษเหล่านี้ยอมรับการสารภาพ ซึ่งก็มีหลายรายกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ที่ทนการทรมานแบบนี้ไม่ไหวรับสารภาพไปแล้ว ยอมติดคุกฟรีไปซะอย่างนั้น
แก้ปัญหาได้ คือเลิกใช้พรก.ฉุกเฉินในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ไปได้แล้ว เป็นกฎหมายให้อำนาจทหารจับกุมใครก็ได้เพียงแค่สงสัยก็จับไปทรมานในค่ายได้ สันติภาพจะผ่อนคลายเองโดยอัตโนมัติ
“สองแผ่นดิน” บันทึกเรื่องราวเป็นกวีศิลป์แห่งความทุกข์ทรมานและความเจ็บปวด การถูกทรมานในคุก ความหวังและการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของสมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่ควรค่าต่อการเป็นเจ้าของ คำนิยมโดยวัฒน์ วรรลยางกูร กวีกบถนอกราชอาณาจักร รายได้สนับสนุนการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยนักโทษการเมือง นำผู้ลี้ภัยกลับบ้าน ราคา 150 บาท ค่าส่ง 20.00 บาท รวม 170 บาท สั่งซื้อด้วยการโอนเงิน 170.00 บาท ในนามของสมยศ พฤกษาเกษมสุข ธนาคารกรุงไทย บัญชีเลขที่ 198-0-12736-0 ส่งสลิป และแจ้งชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่ง Email มาที่ editor@prakaifai.com หรือโทรศัพท์มาที่ 065-557-5005