บทความ

เมื่อพันท้ายนรสิงห์ปี 2247 พบกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาปี 2562  


พันท้าย01เมื่อพันท้ายนรสิงห์ปี 2247 พบกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาปี 2562  
สมยศ พฤกษาเกษมสุข 21.9.62

ได้ดูละคร พันท้ายนรสิงห์ เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายปี พ.ศ. 2558 สร้างโดย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล นำแสดงโดยพงศกร เมตตาริกานนท์ รับบทเป็น พันท้ายนรสิงห์ พันโทวันชนะ สวัสดี รับบทเป็น พระเจ้าเสือ และ พิมดาว พานิชสมัย รับบทเป็น นวล  ข้าพเจ้าซาบซึ้งในความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์ของพันท้ายนรสิงห์เป็นอย่างยิ่ง ได้เดินทางไปดูอุทยานประวัติศาสตร์พันท้ายนรสิงห์ตั้งอยู่ตำบลพันท้ายนรสิงห์ จังหวัดสมุทรสาคร โดยตั้งอยู่ ณ บริเวณสถานที่ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์หัวเรือพระที่นั่งของพระเจ้าเสือหัก  ทั้งนี้ ได้มีการสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พันท้ายนรสิงห์ 

พันท้ายนรสิงห์ เป็นนายท้ายเรือพระที่นั่งของพระเจ้าเสือ ในบรรดาศักดิ์ พันเมื่อครั้งที่พระเจ้าเสือ เสด็จโดยเรือพระที่นั่ง ประพาสเพื่อทรงเบ็ด ณ ปากน้ำเมืองสาครบุรี เมื่อเรือพระที่นั่งถึงตำบลโคกขามซึ่งเป็นคลองคดเคี้ยวและมีกระแสน้ำเชี่ยวกราก พันท้ายนรสิงห์ซึ่งถือท้ายเรือพระที่นั่งมิสามารถคัดแก้ไขได้ทัน โขนเรือพระที่นั่งกระทบกับกิ่งไม้หักตกลงไปในน้ำ พันท้ายนรสิงห์รู้ว่า ความผิดครั้งนี้มีโทษถึงประหารชีวิตตามโบราณราชประเพณี ที่กำหนดว่า “ถ้าผู้ใดถือท้ายเรือพระที่นั่งให้หัวเรือพระที่นั่งหัก ผู้นั้นถึงมรณะโทษให้ตัดศีรษะเสีย” จึงได้กระโดดขึ้นฝั่งแล้วกราบทูลให้ทรงลงพระอาญาตามพระกำหนดถึงสามครั้งด้วยกัน เนื่องจากในครั้งแรก พระเจ้าเสือพระราชทานอภัยโทษ เพราะเห็นว่าเป็นอุบัติเหตุสุดวิสัย ครั้งที่สองก็รับสั่งให้สร้างรูปปั้นปลอมแล้วตัดหัวรูปปั้นนั้นแทน แต่ท้ายสุดก็ได้ตรัสสั่งให้ประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะพันท้ายนรสิงห์ตามคำขอ ในเวลาเช้าตรู่ ตรงกับวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 3 พ.ศ. 2247 แล้วสร้างศาลไม้ขนาดเล็ก ลักษณะเป็นศาลไม้ในสมัยปัจจุบัน

พันท้ายนรสิงห์ เป็นนายทหารของพระเจ้าเสือ ผู้ที่ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ และรักษากฎมณเฑียรบาลยิ่งกว่าชีวิตตน  คนรุ่นหลังได้รู้ถึงความจงรักภักดี และความซื่อสัตย์ของนายทหารคนหนึ่งที่ยอมรักษากฎเกณฑ์โดยใช้ชีวิตตนเข้าแลก เพื่อมิให้ผู้ใดครหาติเตียนพระเจ้าอยู่หัวของตนได้ว่า ทรงละเลยกฎหมายสูงสุดของแผ่นดิน

จากเรื่องราวพันท้ายนรสิงห์หันกลับมาดูเรื่องราวของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นทหารเสือราชินี  ทำการรัฐประหารเพื่อปกป้องสถาบันกษํตริย์  เป็นผู้ประกาศตนเองว่าจงรักภักดีต่อกษํตริย์เป็นที่สุด ถึงกับทำการปราบปรามบรรดาพวกที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นพวกหมิ่นกษัตริย์กระทั่งมีการอุ้มฆ่าผู้ลี้ภัยการเมืองตายไปถึง 8 คนด้วยกัน โดยไม่มีใครกล้าจะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเหยื่อเหล่านั้น

เมื่อทหารเสือราชินีผู้นี้ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองจากการสืบทอดอำนาจเผด็จการทหาร รัฐธรรมนูญ2560 ระบุให้ ต้องถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับตำแหน่ง แต่ทหารเสือราชินีผู้นี้กลับจงใจไม่ถวายสัตย์ปฏิญาณตนให้ครบถ้วนตามกฎหมายกำหนด หากเปรียบเทียบกันกับกรณีพันท้ายนรสิงห์ แม้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยก็ยังกราบทูลให้ทรงประหารชีวิตไปเสียเพื่อรักษากฎมณเทียรบาลที่เป็นกฎหมายสูงสุดในเวลานั้น ทำให้สงสัยเหลือเกินว่า พลเอกประยถุทธ์ จันทร์โอชา จงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์จริงหรือไม่อย่างไรกันแน่  จงรักภักดีมากขนาดไหน หรือเพียงแต่ต้องการสืบทอดอำนาจเผด็จการทหารของตนเองให้ยืนยาวเพื่อสะสมความร่ำรวย มั่งคั่งของตนต่อไป โดยที่ไม่ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ

ทำไมสูเจ้าจึงบังอาจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศนี้ ต่อหน้าพระพักตร์ของพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งตนเองเคยรับราชการเป็นผู้บัญชาการทหารบกมาก่อน เคยปฏิญาณครบถ้วนตามแบบแผนประเพณีมาโดยตลอด หรือเป็นเพราะว่า เมื่อดำรงตำแหน่งสมัยที่สองจึงเหิมเกริมถึงขนาดไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญให้สังคมได้รับรู้กันกว้างขวาง

เป็นรัฐบาลผู้แถลงนโยบายที่จะปกป้องสถาบันกษัตริย์ด้วยชีวิต เป็นนายทหารเสือราชินีเป็นผู้ประกาศตนเองว่าจงรักภักดี แต่เหตุไหนไม่ทำตนเป็นเยี่ยงอย่างแห่งความซื่อสัตย์จงรักภักดีเฉกเช่นเดียวกันกับพันท้ายนรสิงห์

เหตุไฉนยังคงเชิดหน้าชูตา ไม่รู้ร้อนหนาว ในตำแหน่งเสนาบดีในสภาพที่ตนเองปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนตามกฎหมายสูงสุดของประเทศนี้

พสกนิกรอย่างข้าพเจ้าประหลาดใจยิ่งนัก อยากเชิญชวนบรรดาเสื้อเหลืองและมวลมหาประชาชนผู้จงรักภักดีให้มาจัดการกับนายทหารเสือราชินีผู้นี้ เพื่อที่คนไทยเราจะได้สักการะพันท้ายนรสิงห์กันต่อไป ใครมีกะตังมากช่วยพาผมไปที่อุทยานประวัติศาสตร์พันท้ายนรสิงห์ อีกครั้ง จะขอไปกราบสักการะพันท้ายนรสิงห์ ให้รับทราบถึงการกระทำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการกระทำที่ไม่รักษากฎหมายสูงสุดต่อหน้าพระพักตร์ของพระเจ้าแผ่นดิน

fc1e75e1-4104-4811-a8e8-661d9790beea----20160331-work-news2-1

 

16-ภปนิธิ9กย-728x498

twolaands3

สองแผ่นดินบันทึกเรื่องราวเป็นกวีศิลป์แห่งความทุกข์ทรมานและความเจ็บปวด ความหวังและการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของสมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่ควรค่าต่อการเป็นเจ้าของ  คำนิยมโดยวัฒน์ วรรลยางกูร กวีกบถนอกราชอาณาจักร  รายได้สนับสนุนการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยนักโทษการเมือง นำผู้ลี้ภัยกลับบ้าน  ราคา 150 บาท  ค่าส่ง 20.00 บาท รวม 170 บาท  สั่งซื้อด้วยการโอนเงิน 170.00 บาท ในนามของสมยศ พฤกษาเกษมสุข ธนาคารกรุงไทย บัญชีเลขที่ 198-0-12736-0  ส่งสลิป และแจ้งชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่ง Email มาที่ editor@prakaifai.com  หรือโทรศัพท์มาที่ 065-557-5005

ถังเฉ้า