พลังผู้สูงวัยเรียกร้องเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ3000บาท
(13 พย.2562:10.30) ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มผู้สูงวัยใส่ใจสังคม และกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย นำผู้สูงวัยกว่า 150 คน มาชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล ยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากเดือนละ 600 บาท เป็นเดือนละ 3000 บาท โดยถือป้ายประท้วงข้อความว่า “ตอบแทนคุณแผ่นดินเพิ่มเบี้ยชราเดือนละ 3000 บาท งดซื้อรถถังช่วยประทังชีวิตคนชรา รวมพลังกันต่อสู้หรือจะอยู่อย่างอดอยาก ฯลฯ โดยมีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้มารับหนังสือ ทั้งนี้นางสาวอุบล ร่มโพธิ์ทองกล่าวว่า คนชราทำงานมาทั้งชีวิต ทำให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองมาได้ แต่ในบั้นปลายกลับมีชีวิตที่แร้นแค้น ยากจนขัดสน เบี้ยยังชีพคนชราในปัจจุบันเพียงวันละ 20 บาท ยังซื้อข้าวแกงได้แค่ ครึ่งชาม คนชราจึงทุกข์ยากเดือดร้อนแสนสาหัส ทุกวันนี้เศรษฐกิจแย่มาก คนหนุ่มสาวทำงานได้ค่าจ้างขั้นต่ำที่ต่ำเกินไป ไม่มีเงินส่งเลี้ยงดูพ่อแม่ ชีวิตคนชราจึงยากไร้ โดดเดี่ยว และยากลำบาก จึงหวังว่ารัฐบาลจะเพิ่มเบี้ยชราให้ได้เดือนละ 3000 บาทหรือวันละ 100 บาท ซึ่งก็ต่ำกว่าความจำเป็นในการดำรงชีพสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อยู่ดี เพียงแต่การเพิ่มเบี้ยชราจะเป็นการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นมาได้บ้างในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันนี้
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กล่าวว่า รัฐบาลใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลืองในการซื้อรถถัง เรือดำน้ำ สูญเสียเงินงบประมาณปีละ 100,000 ล้านบาท และอีกจำนวนมากไปจ่ายเงินเดือนนายพลที่ล้นเกินในกองทัพรวมทั้งที่ไปจ่ายเงินเดือนสองตำแหน่งกันมากมาย หากนำงบประมาณจำนวนนี้มาเพิ่มเบี้ยชราเดือนละ 3000 บาทจะสร้างความมั่นคงให้กับประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีกว่า ปัจจุบันมีคนชราอายุ 60 ปีขึ้นที่ตกระกำลำบาก เป็นคนยากจนค้นแค้น ในสภาพที่ถูกทอดทิ้งอยู่ในชนบท มีจำนวนราว 3 ล้านคน หากเพิ่มเบี้ยชราเดือนละ 3000 บาท ให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ จะเป็นการทำให้คนชราเหล่านี้ลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้บ้างและกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนให้ดีขึ้น รัฐบาลควรงดซื้ออาวุธยุทธโธปกรณ์ ลดตำแหน่งนายพล เลิกงบลับทางการทหาร และเลิกใช้จ่ายฟุ่มเฟือยด้านต่างๆจะทำให้เรามีเงินเหลือเฟือในการเพิ่มเบี้ยคนชราเดือนละ 3000 บาทรวมทั้งการผ่านร่างพรบ.บำนาญแห่งชาติที่เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการนำเสนออยู่ในสภาผู้แทนราษฎรขณะนี้
ทางด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ได้ชี้แจงว่าจะได้นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาโดยตรง และจะจัดให้มีการประชุมระหว่างตัวแทนกลุ่มผู้สูงวัยใส่ใจสังคมกับกระทรวงความมั่นคงมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในเดือนพฤศจิกายน 2562 นี้ ให้ทราบความคืบหน้การดำเนินการในการเพิ่มเบี้ยชราเดือนละ 3000 บาท
กลุ่มผู้สูงวัยใส่ใจสังคม
101/16 หมู่ 4 ซ.สุขสวัสดิ์ 76/1 ถ.สุขสวัสดิ์ ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 10130 โทร. 089-5477014
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562
เรื่อง เพิ่มเงินเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 3000 บาท
เรียน พณฯนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ปัจจุบันนี้มีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 10,670,000 คนหรือร้อยละ 16 ของประชากรทั้งหมด เป็นสังคมผู้สูงวัย โดยรัฐบาลได้ให้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท หรือเพียงวันละ 20 บาท เป็นรายได้ที่ต่ำเกินไป ไม่พอเพียงต่อค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการดำรงชีพสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำให้ผู้สูงอายุยากจนข้นแค้น อัตคัด ขัดสน ทุกข์ยากเดือดร้อนแสนสาหัส มีผู้สูงอายุกว่า 3 ล้านคนตกอยู่ในสภาพอดอยาก ไร้ที่พึ่ง ไร้บ้าน เจ็บป่วย ขาดแคลน
ในขณะที่รัฐบาลนำเงินงบประมาณมหาศาลไปใช้ในการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์และนำไปจ่ายเป็นเงินเดือนสองตำแหน่งให้นายพลในกองทัพ เป็นการใช้จ่ายที่สิ้นเปลือง ไม่เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ-สังคม นำมาซึ่งความเหลื่อมล้ำต่ำสูงในสังคมไทย กลุ่มผู้สูงวัยใส่ใจสังคม จึงได้รวมตัวกันที่จะเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 3000 บาท ให้สอดคล้องกับการครองชีพในปัจจุบันนี้ อันเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับประชาชน และกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต เป็นไปตามที่พรรคพลังประชารัฐได้หาเสียงไว้
กลุ่มผู้สูงวัยใส่ใจสังคม จังหวัดสมุทรปราการ จึงขอให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเพิ่มเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากเดือนละ 600 บาทเป็นเดือนละ 3000 บาทโดยทันที
จึงเรียนมาเพื่อดำเนินการและขอให้แจ้งผลการดำเนินการให้ทราบด้วย จักเป็นพระคุณอย่างสูง
ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
นส.อุบล ร่มโพธิ์ทอง
ประธานกลุ่มฯ