ซวยจริงๆประเทศไทย
(24.12.62)ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อำนาจแบบปล้นมา เป็นทหารตลอดอายุขัย จึงไม่เข้าใจปัญหาแรงงาน ไม่เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ ได้แต่ฟังรายงานจากข้าราชการ ที่เป็นเพียงตัวเลขที่ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงข่าวโรงงานปิดตัวหลายแห่งในปีนี้ว่าหลายโรงงานเขาสมัครใจที่จะปิดตัวเอง เพราะสู้ต้นทุนไม่ไหว หรือไม่สามารถพัฒนาสินค้าได้ จึงจำเป็นต้องปิดตัวลง ซึ่งมีโรงงานที่ปิดตัวลงจำนวน 1,480 แห่ง แต่ขณะเดียวกันก็มีการเปิดโรงงานใหม่ ๆ มากขึ้นเพิ่มเป็นสามเท่า มีการจ้างงานใหม่จำนวน 178,733 คน เป็นความเข้าใจเพียงด้านเดียวและเป็นตัวเลขที่ไม่ได้สะท้อนปัญหาที่แท้จริง กล่าวคือ 1.การปิดโรงงาน เป็นการเคลื่อนย้ายฐานการผลิต ไปอาศัยประโยชน์จากประเทศอื่นที่เขาไม่มีปัญหาภาพลักษณ์ของรัฐบาลที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนงาน 2.ได้ขูดรีดและได้กำไรมหาศาลจากการที่รัฐบาลไปให้สิทธิพิเศษที่ไม่ต้องเสียภาษี พอกำไรสูงแล้วก็เผ่นหนีไป โดยที่รัฐบาลไม่ยอมบังคับใช้กฎหมายแรงงานในเรื่องการจ่ายเงินค่าชดเชยใหกับคนงาน ฯลฯ
ส่วนตัวเลขที่บอกว่า มีโรงงานที่ปิดตัวลงจำนวน 1,480 แห่ง แต่ขณะเดียวกันก็มีการเปิดโรงงานใหม่ ๆ มากขึ้นเพิ่มเป็นสามเท่า มีการจ้างงานใหม่จำนวน 178,733 คน ก็ไม่ได้หมายความว่า ผู้ที่ถูกเลิกจ้างจากการปิดโรงงานไปแล้ว จะสามารถเข้าไปทำงานในที่ทำงานแห่งใหม่ที่มีการเปิดโรงงานเพิ่มขึ้นได้สามเท่า ไม่มีตัวเลขพิสูจน์ในเรื่องนี้ก็เพราะว่า โรงงานที่เปิดใหม่กลับไปจ้างงานแรงงานต่างด้าวกันส่วนใหญ่ โดยเฉพาะทุนจากประเทศจีน ระดับแรงงานมีฝีมือเอามาจากเมืองจีนโดยตรงส่วนแรงงานไร้ฝีมือก็ใช้แรงงานจากเขมร พม่า ลาว แทน คนว่างงานคนไทยไม่มีโอกาสเข้าไปทำงานที่ใหม่ได้ ที่พอไปได้ก็ดูเหมือนจะเป็นงานประเภทนวดแผนโบราณที่ดูเหมือนว่าต้องยอมขายตัวไปด้วยเพื่อแลกกับการดำรงชีวิตในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง
ไปถามหมอนวดแผนโบราณก็บ่นกันถ้วนหน้า นั่งตบยุงในตู้กระจก หาลูกค้าได้ยากเย็น พอจะหลุดเข้าไปได้ แม้ยอมขายตัวด้วยก็ถุกกดราคาหรือไม่ก็ถูกถีบกระเด็น
ได้รัฐบาลเซียงกงแล้วไม่พอยังได้นายกรัฐมนตรีง้าวสุดหัวสุดตีนแบบนี้อีก ซวยจริงๆประเทศไทย
ซวยจริงๆประเทศไทย
สมยศ พฤกษาเกษมสุข 24.12.62

