ข่าว

  ประกาศคณะราษฎรดังกระหึ่มทั่วราชอาณาจักร


104414828_3630758716952308_9221631476829919673_n

   ประกาศคณะราษฎรดังกระหึ่มทั่วราชอาณาจักร

        ครบรอบ 88 ปี การปฏิวัติสยาม 24 มิถุนายน 2563 ปีนี้คึกคักเป็นพิเศษ นักศึกษาประชาชนหลายจังหวัดรวมตัวกันในสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากราชาธิปไตยมาเป็นประชาธิปไตยแบบรัฐสภา อ่านประกาศคณะราษฎรดังกระหึ่มขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ที่สำคัญเป็นการเคลื่อนไหวในกรุงเทพมหานครเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงค่ำคืน

       เริ่มต้นกันตั้งแต่ย่ำรุ่งเวลา 5.23 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย นำโดยนายอานนท์ นำภา มีตัวแทนอ่านประกาศคณะราษฎร ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พระยาพหลพลพยุหเสนาอ่านประกาศคณะราษฎรฉบับที่ 1 เมื่อ 88 ปีก่อน โดยนำหมุดคณะราษฎรจำลองมาวางไว้ที่พื้นถนน พร้อมกับฉายภาพโฮโลแกรม 3 มิติประกอบเสียงจำลองเหตุการณ์ โดยมีตำรวจเข้ามาห้ามการจัดกิจกรรม เนื่องจากยังมีพรก.ฉุกเฉินประกาศใช้อยู่ แต่การชุมนุมยังดำเนินการต่อไป จนแล้วเสร็จตามกำหนดการท่ามกลางนับร้อยคนมาควบคุมสถานการณ์

        เวลา 10.30 น.        ที่หน้าสัปปายะสภาสถาน ถนนเกียกกาย คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) ราว 300 คน ร่วมแสดงพลัง “ทวงคืนมรดกคณะราษฎร ทวงคืนสัญญารัฐธรรมนูญประชาชน”  เริ่มต้นที่ อภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์หรือหนุ่ย แต่งกายเป็นพระยาพหลพลพยุหเสนา อ่านประกาศคณะราษฎรฉบับที่ 1 และการปราศรัยของตัวแทนกลุ่มต่างๆอาทิเช่น พัชณี คำหนัก ได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลง24มิถุนายน 2475 เป็นการปฏิวัติที่ไม่แล้วเสร็จ เพราะ ไว้วางใจอำนาจเก่าจะยอมยุติอำนาจ แต่ปรากฏว่า กลุ่มอำนาจเก่ากลับฟื้นตัวแล้วหวนกลับมาเล่นงานคณะราษฎรจนหลายคนต้องลี้ภัยไปตายในต่างแดน

      ศรีไพร นนทรี ผู้นำคนงานย่านรังสิตและไกล้เคียงได้อ่านแถลงการณ์โดยคณะประชาชนเพื่ออิสรภาพและกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎรมีมติให้วันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันชาติ ให้มีวันหยุดระหว่าง 23-25 มิถุนายน เพราะเป็นต้นกำเนิดประชาธิปไตยและรัฐประชาชาติ สร้างความเจริญทันสมัยมาสู่ประเทศไทย แม้ว่าในปัจจุบันนี้ ประเทศไทยยังคงปกครองด้วยเผด็จการ จากการทำรัฐประหาร 20 ครั้งในรอบ 88 ปีที่ผ่านมาก็ตาม ( อ่านรายละเอียด)

      อาทิตยา พรพรม ตัวแทนกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย กล่าวว่า ที่เยาวชนอายุ 18 ปี ต้องออกมาต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยก็เพราะมีรัฐบาลเผด็จการที่เข้ามาโกงกิน แม้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกันแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ทำคุณประโยชน์ให้กับประชาชน โดยทางกลุ่มฯขอเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หยุดการสืบทอดอำนาจของเผด็จการทหาร กำหนดให้มีเพียงสภาเดียวคือสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น

      รศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโน กล่าวว่า  เฉลี่ยทุก 3 ปีครึ่งจะมีการก่อรัฐประหารทั้งสำเร็จและล้มเหลว 1 ครั้ง ขณะที่รัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งเป็นฉบับที่ 20 ของไทย  เป็นฉบับที่ร่างโดยเผด็จการทหาร แล้วยัดเยียดให้ประเทศไทยด้วยการลงประชามติภายใต้เผด็จการทหารที่จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน  ภายใต้การบริหารงานของพลเอกประยุทธ์ มีการทำลายสัญลักษณ์ที่เป็นมรดกมาจากคณะราษฎร เช่น หมุดคณะราษฎร และ อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ได้หายไปและถูกทุบทำลาย  ข้อเรียกร้องของ ครช. คือ ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 แล้วให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เป็นผู้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกำหนดให้นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง ฯลฯ

       ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน บรรดาเครือญาติและคณะราษฎร2550 นำโดยพรส เฉลิมแสน ได้ร่วมกันทำบุญ สวดมนต์ ที่เจดีขาวที่เป็นที่บรรจุกระดูกของคระราษฎร ซึ่งกลุ่มดังกล่าวจัดการทำบุญทุกวันที่ 24 ของทุกเดือน

         แม้ว่ารัฐบาลจะสั่งห้ามการชุมนุม อ้างถึง พ.ร.ก. บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจะยังคงมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ แต่วันนี้หลายจังหวัดนัดหมายทำกิจกรรมอ่านประกาศคณะราษฎร เช่นที่ จังหวัดขอนแก่น กลุ่มขอนแก่นพอกันที นำไม้กวาด น้ำยาทำความสะอาด เก็บกวาดเผด็จการ ทำความสะอาดลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีป้ายข้อความเช่น “24 มิถุนายน อภิวัฒน์สยาม เก็บกวาประชาธิปไตย”ที่จังหวัดสุรินทร์ จัดที่ อนุสรณ์รัฐธรรมนูญ หน้าศาลากลางจังหวัด ที่อุบลราชธานี จัดที่ สะพานเสรีประชาธิปไตย จ.ระยองที่ ศาลากลางจังหวัดระยอง ฯลฯ

          ในเวลา 17.00 น. ที่สกายวอร์ค หน้ามาบุญครอง สหภาพนักเรียน นักศึกษา แห่งประเทศไทย ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุลได้อ่านประกาศคณะราษฎร ผ่านเครื่องขยายเสียงดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบกว่า 100 นาย  ร่วมรับฟังประกาศคณะราษฏรด้วยความตั้งใจเพราะไม่เคยรับฟังมาก่อน เมื่ออ่านจบแล้ว นายพริษฐ์ หรือเพนกวิ้น กล่าวว่า รัฐบาลใช้พรก.ฉุกเฉินมาปิดกั้นเสรีภาพของประชาชนได้ออกหมายเรียกให้ไปรายงานตัว ซึ่งตนเห็นว่าเป็นการใช้กฎหมายไม่เป็นธรรม จะไม่ขอยอมรับและจะไม่ไปรายงานตัว

             นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ประธานกลุ่ม 324 มิถุนาประชาธิปไตยให้สัมภาษณ์ว่า การรำลึก 88 ปีการปฏิวัติสยามปีนี้มีความคึกคึกและมีพลังเป็นพิเศษ จากความตื่นตัวของประชาชนต่อการปฏิวัติสยาม การอ่านประกาศคณะราษฎรขึ้นมาใหม่ เป็นสัญญาณบอกถึง การสานต่อภารกิจของคณะราษฎรในการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง แม้เวลาจะผ่านมากว่า 88 ปีแล้ว ทั้งที่ระบอบเก่าจะสามารถกำจัดคณะราษฎรและสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์จนหมดสิ้น แต่ปรากฏว่า ประชาชนกลับให้ความสนใจและเดินหน้าที่จะสานต่อเจตนารมณ์แห่งการปฏิวัติสยามกันต่อไป

24.6.63

ประกาศคณะราษฎร

ราษฎรทั้งหลาย

เมื่อกรัตริย์[วซ 1] องค์นี้ได้ครองราชสมบัดิ[วซ 2] สืบจากพระเชษฐานั้น ในชั้นต้น ราษฎรบางคนได้หวังกันว่า กษัตริย์องค์ใหม่นี้คงจะปกครองราษฎรให้ร่มเย็น แต่การก็หาได้เป็นไปตามที่คิดหวังไม่ กษัตริย์คงทรงอำนาจเหนือกฎหมายอยู่ตามเดิม ทรงแต่งตั้งญาติวงศ์และคนสอพลอไร้คุณความรู้ให้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ๆ ไม่ทรงฟังเสียงราษฎร ปล่อยให้ข้าราชการใช้อำนาจหน้าที่ในทางทุจริต มีการรับสินบนในการก่อสร้าง ซื้อของใช้ในราชการ หากำไรในการเปลี่ยนราคาเงิน ผลาญเงินของประเทศ ยกพวกเจ้าขึ้นให้สิทธิพิเศษมากกว่าราษฎร กดขี่ข่มเหงราษฎร ปกครองโดยขาดหลักวิชชา ปล่อยให้บ้านเมืองเป็นไปตามยถากรรม ดั่งที่จะเห็นได้จากความตกต่ำในทางเศรษฐกิจและความฝืดเคืองในการทำมาหากิน ซึ่งพวกราษฎรได้รู้กันอยู่ทั่วไปแล้ว รัฐบาลของกษัตริย์เหนือกฎหมายมิสามารถแก้ไขให้ฟื้นขึ้นได้

การที่แก้ไขไม่ได้ ก็เพราะรัฐบาลของกษัตริย์นี้มิได้ปกครองประเทศเพื่อราษฎรตามที่รัฐบาลอื่น ๆ ได้กระทำกัน รัฐบาลของกษัตริย์ได้ถือเอาราษฎรเป็นทาส (ซึ่งเรียกว่า ไพร่ บ้าง ข้า บ้าง) เป็นสัตว์เดรฉาน ไม่นึกว่า เป็นมนุษย์ เหตุฉะนั้น แทนที่จะช่วยราษฎร กลับพากันทำนาบนหลังราษฎร จะเห็นได้ว่า ภาษีอากรที่บีบคั้นเอามาจากราษฎรนั้น กษัตริย์ได้หักเอาไว้ใช้ส่วนตัวปีหนึ่งเป็นจำนวนหลายล้าน ส่วนราษฎรสิ กว่าจะหาได้แม้แต่เล็กน้อยแทบเลือดตากระเด็น ถึงคราวเสียเงินราชการหรือภาษีใด ถ้าไม่มีเงิน รัฐบาลก็ยึดทรัพย์หรือใช้งานโยธา แต่พวกเจ้ากลับนอนกินกันเป็นสุข ไม่มีประเทศใดในโลกจะให้เงินเจ้ามากเช่นนี้ นอกจากพระเจ้าซาร์และพระเจ้าไกเซอร์เยอรมัน ซึ่งชนชาตินั้นก็ได้โค่นราชบัลลังก์เสียแล้ว

รัฐบาลของกษัตริย์ได้ปกครองอย่างหลอกลวง ไม่ซื่อตรงต่อราษฎร มีเป็นต้นว่า หลอกว่า จะบำรุงการทำมาหากินอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ครั้นคอย ๆ ก็เหลวไป หาได้ทำจริงจังไม่ มิหนำซ้ำ กล่าวคำหมิ่นประมาทราษฎรผู้มีบุญคุณเสียภาษีอากรให้พวกเจ้าได้กินว่า ราษฎรยังมีเสียงทางการเมืองไม่ได้ เพราะราษฎรยังโง่ คำพูดของพวกรัฐบาลเช่นนี้ใช้ไม่ได้ ถ้าราษฎรโง่ เจ้าก็โง่ เพราะเป็นคนชาติเดียวกัน ที่ราษฎรรู้เท่าไม่ถึงเจ้านั้น ไม่ใช่เพราะโง่ เป็นเพราะขาดการศึกษาที่พวกเจ้าปกปิดไว้ไม่ให้เรียนเต็มที่ เพราะเกรงว่า เมื่อราษฎรได้มีการศึกษา ก็จะรู้ความชั่วร้ายที่พวกเจ้าทำไว้ และคงจะไม่ยอมให้เจ้าทำนาบนหลังคน

ราษฎรทั้งหลายพึงรู้เถิดว่า ประเทศเรานี้เป็นของราษฎร ไม่ใช่ของกษัตริย์ตามที่เขาหลอกลวง บรรพบุรุษของราษฎรเป็นผู้ช่วยกันกู้ให้ประเทศมีอิสสรภาพพ้นมือจากข้าศึก พวกเจ้ามีแต่จะชุบมือเปิบ และกวาดรวบทรัพย์สมบัติเข้าไว้ตั้งหลายร้อยล้าน เงินเหล่านี้เอามาจากไหน? ก็เอามาจากราษฎร เพราะวิธีทำนาบนหลังคนนั้นเอง บ้านเมืองกำลังอัตคัดฝืดเคือง ชาวนาและพ่อแม่ทหารต้องทิ้งนา เพราะทำไม่ได้ผล รัฐบาลไม่บำรุง รัฐบาลไล่คนงานออกอย่างเกลื่อนกลาด นักเรียนเรียนเสร็จแล้วและทหารปลดกองหนุนแล้วไม่มีงานทำ จะต้องอดอยากไปตามยถากรรม เหล่านี้เป็นผลของรัฐบาลของกษัตริย์เหนือกฎหมาย บีบคั้นข้าราชการชั้นผู้น้อย นายสิบ และเสมียน เมื่อให้ออกจากงานแล้วก็ไม่ให้เบี้ยบำนาญ ความจริงควรเอาเงินที่กวาดรวบรวมไว้มาจัดบำรุงบ้านเมืองให้มีงานทำ จึ่งจะสมควรที่สนองคุณราษฎรซึ่งได้เสียภาษีอากรให้พวกเจ้าได้ร่ำรวยมานาน แต่พวกเจ้าก็หาได้ทำอย่างใดไม่ คงสูบเลือดกันเรื่อย ๆ ไป เงินมีเหลือเท่าใดก็เอาฝากต่างประเทศ คอยเตรียมหนีเมื่อบ้านเมืองซุดโทรม ปล่อยให้ราษฎรอดอยาก การเหล่านี้ย่อมชั่วร้าย

เหตุฉะนั้น ราษฎร ข้าราชการทหารและพลเรือน ที่รู้เท่าถึงการกระทำอันชั่วร้ายของรัฐบาลดังกล่าวแล้ว จึ่งรวมกำลังตั้งเป็นคณะราษฎรขึ้น และได้ยึดอำนาจของรัฐบาลของกษัตริย์ไว้ได้แล้ว คณราษฎร[วซ 3] เห็นว่า การที่จะแก้ความชั่วร้ายนี้ได้ ก็โดยที่จะต้องจัดการปกครองโดยมีสภา จะได้ช่วยกันปรึกษาหารือหลาย ๆ ความคิด ดีกว่าความคิดเดียว ส่วนผู้เป็นประมุขของประเทศนั้น คณะราษฎรไม่ประสงค์ทำการแย่งชิงราชสมบัติ ฉะนั้น จึ่งได้ขอเชิญให้กษัตริย์องค์นี้ดำรงค์ตำแหน่งกษัตริย์ต่อไป แต่จะต้องอยู่ใต้กฎหมายธรรมนูญการปกครองแผ่นดิน จะทำอะไรโดยลำพังไม่ได้ นอกจากด้วยความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร คณะราษฎรได้แจ้งความประสงค์นี้ให้กษัตริย์ทราบแล้ว เวลานี้ ยังอยู่ในความรับตอบ ถ้ากษัตริย์ตอบปฏิเสธ หรือไม่ตอบภายในกำหนด โดยเห็นแก่ส่วนตนว่า จะถูกลดอำนาจลงมา ก็จะชื่อว่า ทรยศต่อชาติ และก็เป็นการจำเป็นที่ประเทศจะต้องมีการปกครองแบบอย่างประชาธิปตัย กล่าวคือ ประมุขของประเทศจะเป็นบุคคลสามัญซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้เลือกตั้งขึ้นอยู่ในตำแหน่งตามกำหนดเวลา ตามวิธีนี้ ราษฎรพึงหวังเถิดว่า ราษฎรจะได้รับความบำรุงอย่างดีที่สุด ทุก ๆ คนจะมีงานทำ เพราะประเทศของเราเป็นประเทศที่อุดมอยู่แล้ว–ตามสภาพ เมื่อเราได้ยึดเงินที่พวกเจ้ารวบรวมไว้จากการทำนาบนหลังคนตั้งหลายร้อยล้านมาบำรุงประเทศขึ้นแล้ว ประเทศจะต้องเฟื่องฟูขึ้นเป็นแม่นมั่น การปกครองซึ่งคณะราษฎรจะพึงกระทำก็คือ จำต้องวางโครงการ อาศัยหลักวิชชา ไม่ทำไปเสมือนคนตาบอดเช่นรัฐบาลที่มีกษัตริย์เหนือกฎหมายทำมาแล้ว เป็นหลักใหญ่ ๆ ที่คณะราษฎรวางไว้ มีอยู่ว่า

๑ จะต้องรักษาความเป็นเอกราชทั้งหลาย เช่น เอกราชในทางการเมือง ในทางศาล ในทางเศรษฐกิจ ฯลฯ ของประเทศไว้ให้มั่นคง

๒ จะต้องรักษาความปลอดภัยภายในประเทศ ให้การประทุษร้ายต่อกันลดน้อยลงให้มาก

๓ จะต้องบำรุงความสุขสมบูรณ์ของราษฎรในทางเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลใหม่จะหางานให้ราษฎรทุกคนทำ จะวางโครงการเศรษฐกิจแห่งชาติ ไม่ปล่อยให้ราษฎรอดอยาก

๔ จะต้องให้ราษฎรมีสิทธิเสมอภาคกัน (ไม่ใช่ให้พวกเจ้ามีสิทธิยิ่งกว่าราษฎรเช่นที่เป็นอยู่)

๕ จะต้องให้ราษฎรได้มีเสรีภาพ มีความเป็นอิสสระ เมื่อเสรีภาพนี้ไม่ขัดต่อหลัก ๔ ประการดั่งกล่าวข้างต้น

๖ จะต้องให้การศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร

ราษฎรทั้งหลายจงพร้อมใจกันช่วยคณะราษฎรให้ทำกิจอันจะคงอยู่ชั่วดินฟ้านี้ให้สำเร็จ คณะราษฎรขอให้ทุกคนที่มิได้ร่วมมือเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลกษัตริย์เหนือกฎหมายพึงตั้งตนอยู่ในความสงบ และตั้งหน้าทำมาหากิน อย่าทำการใด ๆ อันเป็นการขัดขวางต่อคณะราษฎร การที่ราษฎรช่วยคณะราษฎรนี้เท่ากับราษฎรช่วยประเทศ และช่วยตัวราษฎร บุตรหลานเหลนของตนเอง ประเทศจะมีความเป็นเอกราชอย่างพร้อมบูรณ์ ราษฎรจะได้รับความปลอดภัย ทุกคนจะต้องมีงานทำ ไม่ต้องอดตาย ทุกคนจะมีสิทธิเสมอกัน และมีเสรีภาพ พ้นจากการเป็นไพร่เป็นข้าเป็นทาสของพวกเจ้า หมดสมัยที่เจ้าจะทำนาบนหลังราษฎร สิ่งที่ทุกคนพึงปรารถนา คือ ความสุขความเจริญอย่างประเสริฐ ซึ่งเรียกกันเป็นศัพท์ว่า “ศรีอาริย” นั้น ก็จะพึงบังเกิดขึ้นแก่ราษฎรถ้วนหน้า

750x422_886428_1592966335_113056817_104860945_686026008626844_6475203867427564387_n

105569850_2956361607744983_9204599643122590123_o

ยุทธการไล่ล่าโฆษณา