
โควิดระลอก4 หายนะประเทศไทย
เป็นภาวะสิ้นไร้ไม้ตอกสำหรับรัฐบาลประยุทธ์ หากประกาศอะไรออกมาว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ (คุมได้ 100 เปอร์เซ็นต์)หรือจะเอาชนะโควิด (ไทยชนะ) มีความพร้อมฉีดวัคซีน (หมอพร้อม) กระทั่งจะเปิดประเทศได้ใน120 วัน ยิ่งประกาศอะไรออกมาความหายนะจะเกิดขึ้นตามมาโดยฉับพลัน เหมือนที่ชาวบ้านเขาพูดกันว่าเป็นตัวซวยนั่นเอง
9.7.64 โควิดวันนี้ทะยานมาถึง 9276 ราย เสียชีวิต 72 ราย สัปดาห์หน้าถึงหลักหมื่นแน่นอน ระบบสาธารณสุขไทยพังทลาย รองรับไม่ไหวแล้ว โควิดสายพันธ์เดลต้า(อินเดีย) มีความสามารถแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์อัลฟ้า(อังกฤษ)ถึง 60% มีระดับความรุนแรงสูงที่ทำให้อัตราการตายเพิ่มขึ้นรวดเร็ว
ขณะนี้โควิดสายพันธ์เดลต้าได้แพร่เชื้อเข้าไปในครอบครัว ในชุมชน และที่ทำงาน ไม่รู้ที่มาที่ไป สถานการณ์เช่นนี้กล่าวได้ว่า ประเทศไทยเข้าสู่โควิดระลอกที่ 4 แล้ว ที่มีระดับอันตรายเป็นอย่างยิ่ง
ความล้มเหลวการควบคุมการแพร่ระบาดโควิดส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้วิกฤติการแพร่ระบาดโควิดมาแสวงหาประโยชน์ทั้งในทางธุรกิจ และ ทางการเมือง ในทางธุรกิจโควิดระลอก1-2 เป็นการแสวงหาประโยชน์จาก การส่งออกหน้ากากอนามัยไปต่างประเทศ ปล่อยให้หน้ากากอนามัยในประเทศขาดตลาด แล้วโก่งราคาฟันกำไรมหาศาล
ส่วนระลอกที่ 3-4 นี้ เป็นเรื่องการจัดหาวัคซีนแบบไม่โปร่งใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อวัคซีน คุณภาพต่ำแต่ราคาแพงจากประเทศจีน และ การนำเงินรัฐไปอุดหนุนบริษัทสยามไบโอไซน์รับจ้างผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนิก้า โดยหวังว่าจะผลิตได้ตามความต้องการแต่ถึงเวลากลับส่งมอบวัคซีนไม่ได้ตามกำหนดเวลา รัฐบาลจึงไปสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคเพื่อทดแทนวัคซีนแอสตราเซเนกาที่ขาดไป 10 ล้านโดส ซึ่งต้องใช้เงินภาษีประชาชนแพงขึ้นอีก 4,000 ล้านบาทโดยประมาณ(ไทยรัฐ 8กค.64)
เป็นที่รับรู้กันในหลายประเทศแล้วว่า วัคซีนชิโนแว๊คจากจีนนั้นมีประสิทธิภาพการป้องกันโควิดสายพันธ์เดลต้าต่ำกว่า วัคซีนชนิดอื่นๆ (วัคซีนที่มีความสามารถป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์เดลตานั้น ได้แก่ ไฟเซอร์ แอสตร้าเซนเนก้า จอห์นสันแอนด์จอห์สัน และโมเดอร์นา) แต่รัฐบาลกลับไปผูกติดอยู่กับวัคซีนชิโนแว๊คในราคาที่แพงกว่ายี่ห้ออื่น กล่าวคือวัคซีนซิโนแวคขายโดสละ 928 บาท แต่วัคซีนไฟเซอร์โดสละ 608บาทแอสตราเซเนการาคาโดสละ 150 บาท
เมื่อการจัดหาวัคซีนได้ไม่เพียงพอ ในที่สุดรัฐบาลจึงต้องทำการล๊อคดาวน์กรุงเทพและปริมณฑลเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งหมายถึง การพังพินาศของระบบเศรษฐกิจ เป็นการซ้ำเติมชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้เลวร้ายต่อไปกันอีก
ที่ผ่านมารัฐบาลแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโควิดแบบเฉพาะหน้า ขาดการแก้ปัญหาแบบองค์รวมและขาดเอกภาพ รัฐมนตรีแต่ละคนออกคำสั่งไปคนละทิศทาง แก้ปัญหาแบบลิงแก้แห ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง หาหัวหาท้ายไม่เจอ อีรุงตุงนังกันไปหมด อีกทั้งรวบอำนาจไว้กับตนเองเพียงคนเดียว ทำให้ยิ่งแก้ก็ยิ่งเละเทะ ตั้งแต่ยึดอำนาจมา มีความสำเร็จอยู่ประการเดียวคือ วางแผนยึดอำนาจได้ สำเร็จ นอกจากนั้นล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และที่เฮงซวยที่สุดก็คือ การทำให้โควิดระบาด และ หาประโยชน์จากความเป็นความตายของประชาชนอย่างไร้ยางอายเป็นอย่างยิ่ง
หากรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังอยู่ต่อไปแบบนี้ และยังแก้ปัญหากันแบบเดิมต่อไปอีก หายแน่นอน หายนะประเทศไทย
สมยศ พฤกษาเกษมสุข 9.7.64

“สองแผ่นดิน” บันทึกเรื่องราวเป็นกวีศิลป์แห่งความทุกข์ทรมานและความเจ็บปวด ความหวังและการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของสมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่ควรค่าต่อการเป็นเจ้าของ คำนิยมโดยวัฒน์ วรรลยางกูร กวีกบถนอกราชอาณาจักร รายได้สนับสนุนการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยนักโทษการเมือง นำผู้ลี้ภัยกลับบ้าน ราคา 150 บาท ค่าส่ง 20.00 บาท รวม 170 บาท สั่งซื้อด้วยการโอนเงิน 170.00 บาท ในนามของสมยศ พฤกษาเกษมสุข ธนาคารกรุงไทย บัญชีเลขที่ 198-0-12736-0 ส่งสลิป และแจ้งชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่ง Email มาที่ editor@prakaifai.com หรือโทรศัพท์มาที่ 065-557-5005