
“ล้อเลียนพ่อมึง” ถึงกับไล่ออกนอกประเทศเลยหรือ
แค่ไฮโซลูกนัท(นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย)ที่ต้องสูญเสียดวงตาไปข้างหนึ่งจากการใช้ความรุนแรงของตำรวจ ได้แต่งกายในชุดสูทสะพายกล้องมาร่วมชุมนุมในม๊อบทะลุฟ้า(22.8.64) ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ได้ออกมาพูดถึงปมการแต่งชุดดังกล่าวว่า “มาล้อเลียนพ่อกูทางอ้อม “ “ถ้าประเทศไทยมันแย่นักก็เชิญออกจากประเทศนี้ “
ณัฐพล เป็นถึงอดีตรมต.กระทรวงศึกษาแต่พูดได้ย้อนแย้งตัวเองอย่างแรงคือบอกว่า”มาล้อเลียนพ่อกูทางอ้อม” แต่ประโยคถัดมาก็บอกว่า “ คิดว่าคนไทยไม่รู้หรือ ว่ามรึงกำลังสื่ออะไร “
ไม่ว่าไฮโซคนนี้หรือใครก็ตาม จะแต่งกายแบบไหน หรือกระทั่งแบบคร๊อบท๊อปอย่างนายชูเกียรติ แสงวงศ์ ก็ไม่ได้มีข้อความอะไรที่บ่งบอกไปถึง การแต่งกายล้อเลียนนี้จะเป็นการล้อเลียนไปถึงพ่อของณัฏพล ทีปสุวรรณ(วีระพันธุ์ ทีปสุวรรณ ) ได้อย่างไร จริงอยู่พ่อณัฏพลเป็นอดีตประธานบอร์ดแบ็งค์กรุงศรี (เสียชีวิตไปแล้ว)ชอบแต่งกายชุดสูท หากจะล้อเลียนจริงๆก็ไม่ได้มีความหมายที่ไปก่อให้เกิดความเสื่อมเสียถึงขนาดเที่ยวจะไปไล่ใครออกนอกประเทศ พูดแบบนี้ราวกับว่านายณัฏฐพลเป็นเจ้าของประเทศไทย ถึงขนาดไม่พอใจใครก็จะขับไล่ใสส่งหรือเชิญใครออกนอกประเทศนี้กันง่ายๆ
นายณัฏฐพล ไม่มีความรู้มาก่อนหรืออย่างไร ว่า การล้อเลียนนั้นคนไทยทำมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ในนิทานพื้นบ้านหลายเรื่อง จะมีเนื้อหาที่ตรงกันหลายๆ ที่ในโลกว่าบรรดา “ผู้ยิ่งใหญ่” นี้ก็โง่เง่าได้ไม่แตกต่างจากชาวบ้าน เช่นเรื่อง “พระราชาเปลือย” หรือนิทานชุด “เซี่ยงเมี่ยง” ในหลายประเทศด้วยกันประชาชนมักมีภาพล้อเลียน ละครเสียดสี เพราะเป็นเครื่องมือหนึ่งของประชาชนที่จะแสดงความคิดเห็นของประชาชนต่อผู้ปกครองประเทศ
นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของนักการเมืองประเภท ผีหลงป่าช้า ที่แสดงวิสัยทัศน์ได้ใหญ่มากในขนาดเท่า “ขี้ฝุ่นขี้ฝอย”ที่ติดอยู่ปลายเท้าและมองอะไรได้ไม่ไกลไปกว่าส้นเท้าของตนเองเท่านั้น
สมยศ พฤกษาเกษมสุข 23.8.64



10 ปีที่ผ่านไปกับเรื่องที่อยากเล่าให้ฟัง
มีเรื่องเล่าที่อยากเล่าให้ฟังในปี 2553 แต่ไม่มีโอกาสเล่าสู่ให้ฟังผ่านมาถึง 10 ปี ขนาดอาจารย์สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ ได้ช่วยรวบรวมบันทึกนี้และตั้งใจจะจัดพิมพ์ออกมาให้อ่านกันในช่วงที่ผมถูกจองจำ ก็สิ้นชีวิตไปเสียก่อน บันทึกนี้จึงล่องหนไป แต่แล้วบันทึกนี้ก็กลับมาถึงมือผมอีกครั้งอย่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก ผม จึงตัดสินใจนำมาทำเป็นหนังสือเล่ม ไม่ใช่เพื่อให้ผมมีลมหายใจต่อไปในยุคเศรษฐกิจลำเค็ญเท่านั้น แต่ทว่า บันทึกนี้จะเป็นการตอกย้ำอุดมคติของนักต่อสู้สำหรับทุกคนที่ถูกจองจำและสิ้นชีวิตไปด้วยปรารถนาเสรีภาพ-ประชาธิปไตย
สั่งซื้อด้วยการโอนเงิน 170.00 บาท ในนามของสมยศ พฤกษาเกษมสุข ธนาคารกรุงไทย บัญชีเลขที่ 198-0-12736-0 ส่งสลิป และแจ้งชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่ง Email มาที่ editor@prakaifai.com หรือโทรศัพท์มาที่ 065-557-5005