ข่าว

กลุ่ม 24 มิถุนา ยื่นหนังสือร้อง “ผบ.ตร.” เร่งปฏิรูปตำรวจ ยุติใช้ม.112และใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ชี้ 7 ปี ประยุทธ์ ตำรวจถูกใช้เป็นเครื่องมือปราบปรามประชาชน


พิมชนก ใจหงษ์    และ   ทานตะวัน ตัวตุลานนท์  ยื่นหนังสือต่อ ผบ.ตร.เร่งรัดการปฏิรูป

กลุ่ม 24 มิถุนา ยื่นหนังสือร้อง “ผบ.ตร.” เร่งปฏิรูปตำรวจ ยุติใช้ม.112และใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ชี้ 7 ปี ประยุทธ์ ตำรวจถูกใช้เป็นเครื่องมือปราบปรามประชาชน

(30 ส.ค.64 )กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย นำโดยพิมชนก ใจหงษ์                   ทานตะวัน ตัวตุลานนท์   ธัญศิษฐ์  อิงคยุทธวิทยา พร้อมด้วยมวลชนจำนวนหนึ่งเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เรียกร้องให้ปฏิรูปตำรวจ และให้ตำรวจยุติใช้มาตรา112 และความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม

กลุ่มได้เดินทางมาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระราม 1 เวลา 10.30 น. แต่ตำรวจไม่ให้เข้าไปยื่นหนังสือภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทางกลุ่มจึงมารวมตัวกันที่หน้าป้ายสำนักงาน นส.พิมชนก ใจหงส์ และ นส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ได้แถลงข่าวว่ามาเรียกร้องในสองประเด็นคือ หนึ่ง เรียกร้องกรณีที่ทางสน.ดินแดงได้ยึดรถจักรยานยนต์ของผู้มาเข้าร่วมการชุมนุมเป็นจำนวน 300 คันตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2563 เป็นต้นมา ทำให้เดือดร้อนในการประกอบอาชีพ ซ้ำเติมความลำบากในช่วงโควิดระบาด อีกทั้ง พวกเขาได้มาชุมนุมโดยสงบ สันติ ตามรัฐธรรมนูญ ตำรวจไม่ควรยึดพาหนะ เพราะเป็นเครื่องมือทำมาหากิน และ หากอยู่ระหว่างการสอบสวนก็สามารถคืนรถจักรยานยนต์ไปก่อนได้ ไม่มีเหตุใดจะยึดไว้  โดยทางกลุ่มจะมาติดตามเรื่องนี้และจะร้องเรียนกันในขั้นตอนต่อไป ประเด็นที่สอง สืบเนื่องจากกรณีผกก.โจ้ ซ้อมทรมานโดยใช้ถุงดำครอบหัวทำให้ผู้ต้องหาเสียชีวิต จนสะเทือนวงการตำรวจสะท้อนความเน่าเฟะ โดยมีการรีดไถเงินและการส่งส่วยจากการรีดไถพ่อค้ายาเสพติด     

 เพื่อการปฏิรูปตำรวจให้คงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีของผู้พิทักษ์สันติราษฎร ธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมขจัดการคอร์รัปชั่นระบบอุปถัมป์ในการดำรงตำแหน่งระดับสูงตำรวจ กลุ่ม 24 มิถุนาฯ จึงขอเรียกร้อง

1.ให้สอบสวนการกระทำความผิดของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ อย่างจริงจังและรายงานให้สาธารณชนทราบ และทีมงานที่มีส่วนร่วมในการฆ่าโดยเจตนาเล็งเห็นผล การรีดไถ ให้สอบสวนขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แล้วยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์เป็นของแผ่นดิน

2.แยกงานสอบสวนและงานจับกุมให้เป็นอิสระต่อกัน เพื่อไม่ให้มีการวิ่งเต้น ป้องกันการีดไถ

3.การแต่งตั้งนายตำรวจระดับชั้น ผกก.ขึ้นไป จะต้องมีการตรวจสอบและมีมติเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร เพื่อป้องกันการใช้เส้นสาย การใช้ตั๋วช้างแทรกแซงการซื้อขายตำแหน่งระดับสูงเพื่อเข้าไปทุจริตโกงกินจากการทำหน้าที่ตำรวจ

4.หยุดการใช้กฎหมาย มาตรา 112 ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นของประชาชน หยุดการใช้กฎหมายกลั่นแกล้งประชาชนที่ต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย หยุดการใช้กำลัง คฝ.ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบกระทำต่อประชาชนผู้ชุมนุมตามสิทธิเสรีภาพ และ

5.เร่งรัดให้สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างพ.ร.บ.ป้องกันการทรมานและการอุ้มหาย

หลังจากอ่านจดหมายเรียกร้องแล้ว มีการเล่นละครโดยนส.ณัฏฐ์นันท์ ศิลลา และ ธนวินท์ พันธุ์รัตน์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สะท้อนการวิ่งเต้นในตำแหน่งตำรวจระดับสูงไว้เพื่อรีดไถเงินนำส่งส่วยให้เจ้านาย ระว่างที่กำลังแสดงละครเมื่อถึงตอนตำรวจเอาถุงดำคลุมหัว ปรากฏว่าตำรวจได้เข้ามาดึงถุงดำออกทันที และแจ้งว่า ห้ามการแสดงละคร หากมีการแสดงละครจะดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉิน ทำให้การแสดงหยุดชะงักลงไป

นายสมยศ พฤกษาเกษมสุขกล่าวว่า ไม่รู้ว่าตำรวจเกิดความอับอายขนาดที่ไม่ยอมให้แสดงการใช้ถุงดำครอบหัว เป็นการซ้อมทรมานรีดไถเงิน เพื่อส่งส่วยทั้งที่เป็นที่รับรู้กันไปทั่วโลกแล้ว การปฏิรูปตำรวจที่สำคัญคือการแยกการทำงานระหว่างฝ่ายสอบสวนและการจับกุมออกจากกัน เพื่อไมให้เกิดการใช้อำนาจหน้าที่ไม่ชอบ ส่วนในเรื่องการวิ่งเต้นหรือการใช้ตั๋วช้างที่กำลังฉาวโฉ่อยู่นั้น ขอเรียกร้องให้การแต่งตั้งโยกย้ายระดับนายพันขึ้นไปและตำแหน่งผู้กำกับนั้นจะต้องผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อไม่ให้มีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งและการใช้เส้นสาย

หลังจากนี้เป็นการแสดงละครกรณีตำรวจใช้มาตรา 112 จับกุมแกนนำคณะราษฎร เรียกร้องให้ตำรวจยุติการใช้มาตรา 112 เพราะเป็นการขัดต่อสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น อีกทั้งยังขัดต่อพระราชประสงค์ของในหลวงรัชกาลที่9และในหลวงรัชกาลที่ 10 อีกด้วย

กลุ่ม24มิถุนาประชาธิปไตยได้ยื่นหนังสือต่อ พตอ.ภีมเดช สาละกุล รองผู้บังคับการผบก.อช. เพื่อนำเรียนต่อไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต่อไป ในเวลา 12.00 น ทางกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยยังได้เดินทางมายังสน.ดินแดง เพื่อติดตามทวงคืนรถจักรยานยนต์ที่ตำรวจยึดไปตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2564 โดยกำหนดให้ ตำรวจดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ซึ่งทางกลุ่มจะได้ร้องเรียนต่อกรรมาธิการยุติธรรมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

—————————————————————————

กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย

46/428 ม.ริมสวน ประชาอุทิศ 12 ดอนเมือง กรุงเทพ 10210 โทร.065-55750058
30 สิงหาคม  2564
เรื่อง  ข้อเรียกร้องการดำเนินคดี  ผกก. โจ้ และการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมของตำรวจ
เรียน  พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

 สะเทือนวงการตำรวจ เมื่อ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ “ผกก.โจ้”  ผกก.สภ. เมืองนครสวรรค์ ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนถึงแก่ความตาย แล้วแจ้งแพทย์ออกใบชันสูตรศพว่าผู้ต้องหาเสพยาเกินขนาด โดยปรากฏอีกว่ามีการรีดไถเงินจากเหยื่อและการส่งส่วยให้ผู้ใหญ่ ทำให้สูญเสียความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมอย่างแรง

 ภายใต้ 7 ปีของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ตำรวจถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการปราบปรามประชาชน ทั้งในด้านการใช้กำลังตำรวจควบคุมฝูงชนทุบตียิงกระสุนยาง ฉีดน้ำแก๊สน้ำตา ทำร้ายเยาวชนที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องความเป็นธรรมอย่างทารุณโหดร้าย และยังใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมาตรา 112 ในการจับกุมคุมขังประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย จนทำให้เกิดเป็นความขัดแย้งแตกแยกในสังคมไทย จนกระทบกระเทือนต่อสถาบันกษัตริย์ เป็นการสร้างรัฐตำรวจที่ทำหน้าที่รับใช้เผด็จการอย่างไม่เคยมีมาก่อน เพื่อเป็นการปฏิรูปสถาบันตำรวจให้คงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน ธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม ขจัดสิ้นการทุจริตคอรัปชั่นและการใช้ระบบอุปถัมภ์ในการดำรงตำแหน่งระดับสูงของตำรวจ

กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ขอเรียกร้องดังต่อไปนี้

        1   ให้สอบสวนการกระทำความผิดของ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ  “ผกก.โจ้”  อย่างจริงจังและรายงานให้สาธารณชนรับทราบ และทีมงานที่มีส่วนในการฆ่าโดยเจตนาเล็งเห็นผล การรีดไถเงิน  และทำการสอบสวนขยายผลการส่งเงินไปยังเจ้านายหรือคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อทำการอายัดและยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป

        2      แยกงานสอบสวนและงานจับกุมให้เป็นอิสระต่อกันและตรวจสอบการทำงานซึ่งกันและกัน เพื่อไม่ให้มีการวิ่งเต้นและป้องกันการรีดไถการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับผู้กำกับขึ้นไปจะต้องมีการตรวจสอบและมีมติเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร  เพื่อป้องกันการใช้เส้นสายและการใช้ตั๋วช้างแทรกแซงการทำงานของตำรวจและการซื้อขายตำแหน่งระดับสูงเพื่อเข้าไปทุจริตโกงกินจากการทำหน้าที่ตำรวจ

3.หยุดการใช้กฎหมายมาตรา112 ในการปิดกั้นการแสดงความเห็นของประชาชนและหยุดใช้กฎหมายกลั่นแกล้งประชาชนที่ต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย

4.หยุดการใช้กำลัง คฝ. ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบกระทำต่อประชาชนที่ชุมนุมตามสิทธิเสรีภาพ

5. เร่งรัดให้สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่าง พรบ. ป้องกันการทรมานและการอุ้มหาย

จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการและขอให้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานเพื่อการปฏิรูปตำรวจตามข้อเรียกร้องข้างต้นให้สาธารณชนรับทราบด้วย

ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

พิมชนก ใจหงษ์                   ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ 

สมยศ พฤกษาเกษมสุข                 ธัญศิษฐ์  อิงคยุทธวิทยา

——————————————————————————————-

กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย

46/428 ม.ริมสวน ประชาอุทิศ 12 ดอนเมือง กรุงเทพ 10210 โทร.065-55750058

30 สิงหาคม  2564

เรื่อง  เรียกร้องเรื่องการใช้อำนาจเกินกว่าเหตุในการยึดรถจักรยานยนตร์ในพื้นที่ชุมนุม

เรียน  พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

การชุมนุมถือเป็นสิทธิและเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ผู้ชุมนุมมีสิทธิที่จะจัดหรือร่วมชุมนุมด้วยเหตุผลที่ชัดเจนนี้แต่กลับมีการคุกคามสิทธิและเสรีภาพของบประชาชนโดยตำรวจควบคุมฝูงชนซึ่งเป็นการใช้กฏหมายเกินกว่าเหตุ

ในการยึดรถจักรยานยนต์ของผู้ชุมนุมรวมถึงรถจักรยานยนต์ของผู้ที่ไม่ได้มาร่วมชุมนุมแต่เป็นผู้ที่อยู่ละแวกนั้นหรือมาทำธุระส่วนตัวบริเวณนั้น รถจักรยานยนต์ถือเป็นเพียงพาหนะเพื่อเดินทางมาร่วมชุมนุมเพื่อใช้สิทธิและเสรีภาพของตนเองซึ่งไม่ถือเป็นอุปกรณ์ในการจัดการชุมนุมและไม่ถือเป็นอุปกรณ์ในการสร้างความรุนแรง

การกระทำดังกล่าวของตำรวจผู้กล่าวอ้างว่าตนคือผู้พิทักษ์สันติราษฎรนั้นเข้ามาแทรกแซงในการปิดกั้นและคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชนซ้ำยังสร้างความลำบากให้กับประชาชนในการสูญเสียทรัพย์สินในการใช้ชีวิตและการทำงานและไม่เพียงแต่ใช้กฎหมายเกินกว่าเหตุ

ในการยึดรถจักรยานยนต์ แต่กลับไม่มีการติดตามหรือการสอบสวน ที่ชัดเจนซ้ำยังดำเนินการล่าช้าหรือหากมีการเรียกไปสอบสวนก็ไม่แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าในการดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น

ดังนั้นกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยมีข้อเรียกร้องต่อเรื่องดังกล่าวคือ

  1. ต้องรีบดำเนินการคืนรถจักรยานยนต์ทุกคันที่ได้ทำการยึดมาจากการสลายการชุมนุมให้แก่ผู้ชุมนุม รวมถึงผู้ที่ไม่ได้มาร่วมชุมนุมแต่กลับต้องมาเดือดร้อนเพราะการกระทำที่มักง่าย ไม่สมควร และไม่พึงตระหนักต่อหน้าที่ของเจ้าพนักงาน
  2. ยุติการใช้อำนาจเกินกว่าเหตุในการตรวจค้นรถส่วนตัวรวมถึงการยึดรถผู้ที่มาร่วมชุมนุมหรือผู้ที่อยู่บริเวณพื้นที่ชุมนุม

                หากท่านยังเรียกตนเองว่าเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แต่การกระทำกลับกลอกเป็นเพียงเครื่องมือรับใช้เผด็จการ อีกทั้งยังใช้อำนาจและกฎหมายเกินกว่าเหตุในการคุกคามประชาชนดังนั้นพวกเราซึ่งเป็นประชาชนก็ขอออกมาเรียกร้องด้วยตนเองเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการกระทำของบุคคลที่กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชนอย่างพวกเรา เรายังคงมีความหวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านรวมถึงหน่วยงานภาครัฐจะสามารถตระหนักได้ว่าสิ่งที่พวกท่านร่ำเรียนตลอดจนจบการศึกษาและได้มีตำแหน่งหน้าที่ในการทำงานมาโดยตลอดนั้นรวมถึงเงินเดือนที่ท่านได้รับท่านสมควรจะปฏิบัติตนเพื่อรับใช้ประชาชนของท่านเพราะบุคคลเหล่านี้คือบุคคลที่ต้องจ่ายภาษีเพื่อหวังให้ท่านมาช่วยเหลือพึ่งพาบำบัดทุกข์บำรุงสุขและหวังให้ท่านนำพาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการและขอให้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามข้อเรียกร้องข้างต้นให้สาธารณชนรับทราบด้วย

ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

พิมชนก ใจหงษ์                   ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ 

สมยศ พฤกษาเกษมสุข                 ธัญศิษฐ์  อิงคยุทธวิทยา

Cradit ภาพ : ณัฏพงษ์ มาลี สำนักข่าวราษฎร 30.8.64