คำปราศรัย พริษฐ์ ชีวารักษ์ จากเรือนจำสู่ราษฎรประสงค์

คณะราษฎรยกเลิก 112 จัดการชุมนุมใหญ่ ที่ราชประสงค์ มีผู้เข้าร่วมราว 10000 คน ในเวลา 18.00 น.นายสมยศ พฤกษาเกษมสุขแกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวที อ่านแถลงการณ์ของพริษฐ์ ชีวารักษ์ เขียนถึงผู้เข้าร่วมการชุมนุม

คำปราศรัย พริษฐ์ ชีวารักษ์ จากเรือนจำสู่ราษฎรประสงค์

เมื่อพ.ศ.2517 มีคนถูกจับกุมคุมขังด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพียงเพราะตีพิมพ์บทกวีสั้นๆว่า จูงวัวมาแจก แบกแกะมาสู่ หาหมูมาให้เลี้ยง เชอะ… เพราะหาเสียงเทวดา

      ในปีนี้ (2564) ก็ยังมีคนถูกดำเนินคดีด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพียงเพราะโพสต์ข้อความใน facebooks ว่า “กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ”

      การดำเนินคดีทั้ง 2 ที่ได้ยกตัวอย่างมา น่าจะแสดงให้เห็นทั้งความไร้แก่นสารของประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ได้อย่างชัดเจน ยังไม่รวมถึงว่าในช่วง 10 ปีให้หลังนี้ กฎหมายดังกล่าวจะใช้อย่างบ้าคลั่ง เพื่อลงโทษผู้คนนับร้อยพันด้วยเหตุผลต่างๆกัน บางคนถูกลงโทษ เพราะตั้งคำถามต่อความไม่ชอบมาพากลในการจัดซื้อวัคซีนโควิด 19 บางคนถูกลงโทษ เพียงเพราะตั้งคำถามต่อบทบาทสถานะกษัตริย์ในระบอบประชิปไตย

         บางคนถูกลงโทษเพียงเพราะตั้งคำถามต่อเบื้องหลังเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็น 14 ตุลา 6 ตุลา พฤษภาทมิฬ และพฤษภาเลือด 53 ส่วนบางคนก็ถูกดำเนินคดีเพียงเพราะตั้งคำถามทางวิชาการวว่า “สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้กระทำยุทธหัตถีจริงหรือไม่ และบางคนก็ถูกดำเนินคดีเพียงเพราะชี้นิ้วขึ้นฟ้าหรือใส่เสื้อ ครอปทอป เท่านั้น

      และพวกเขาเหล่านั้นที่ตกเป็นเหยื่อของกฎหมายบ้าคลั่งครอบจักรวาล มาตรา112นี้เป็นใครกัน

      ก็มีตั้งแต่คนธรรมดาถึงคนชั้นสูงและราชสำนัก อดีตรัฐมนตรี ผู้ชุมนุมทางการเมือง นักสิทธิมนุษยชน นักธุรกิจ นักวิชาการ ทนายความ ศิลปิน นิสิตนักศึกษา พ่อค้าตลาดนัด แม่บ้าน พระภิกษุสงฆ์สามเณร นักเรียนมัธยม ตลอดจนผู้ป่วยจิตเวช

      ทั้งหมดนี้ชี้ชัดให้ว่าประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นกฎหมายที่ไร้สาระ ป่าเถื่อน ล้าหลัง และเป็นภัยต่อคนในทุกชนชั้น ทุกฐานะ ทุกอาชีพ

      ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นกฎหมายที่มีกฎหมายที่มีเนื้อหาครอบจักรวาลทุกสิ่งถือเป็น “การหมิ่น” ทั้งหมด แต่กลับมีอัตราโทษสูงลิบลิ่ว และในทางปฏิบัติก็ถูกใช้ปิดปากฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองโดยปราศจากหลักความยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากฝ่ายตรงข้ามคนนั้นตั้งคำถามต่อโครงสร้างและสภาพทางการเมืองที่เป็นอยู่ ก็จะถูกปราบปรามด้วยกฎหมายนี้เป็นพิเศษ กฎหมายมาตรานี้จึงเป็นกฎหมายที่ทั้งละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนและสร้างรอยร้าวในสังคม เพราะความอยุติธรรมนำมาซึ่งความเจ็บปวด และความเจ็บปวดย่อมขยายเป็นบาดแผลที่ยากจะสมานได้จนกว่าจะได้รับการเยียวยา

      ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ยังเป็นกฎหมายอัปยศซึ่งนำมาซึ่งความน่าอับอายแก่ประเทศชาติ เพราะกฎหมายนี้ถูกบัญญัติขึ้นเพื่อปกปิดอำพรางความจริง เป็นเครื่องยืนยันต่อสายตาประชาคมโลกว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ป่าเถื่อน ไม่คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน

      ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นเหตุแห่งความเสื่อมถอยให้แก่การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข เพราะการใช้กฎหมายมาตรานี้ไล่ดำเนินคดีกับผู้คนนับร้อยนับพัน ย่อมก่อให้เกิดความขัดแย้งและการเผชิญหน้า โดยที่กฎหมายนี้ได้ปกปิดความจริง ไม่ยอมให้มีเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น แม้กฎหมายจะปราบปรามเด็ดขาดแต่ทว่าเขาเหล่านั้นยังกล้าหาญพอที่จะวางอิสรภาพของตนเป็นเดิมพันเพื่อยืนหยัดในความเชื่อและความจริงของตน

      ดังนั้นหากท่านเป็นผู้รักประชาธิปไตย รักสิทธิ เสรีภาพและความเสมอภาคของประชาชน ท่านต้องร่วมเรียกร้องให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพื่อปลดปล่อยความคิดและคำพูดของคนไทยให้เป็นอิสระจากโซ่ที่พันธนาการที่ยาวนาน

      หากท่านไม่ได้ศรัทธาในประชาธิปไตย แต่ยังรักและภูมิใจในประเทศของเราท่านต้องร่วมเรียกร้องให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพื่อให้ประเทศไทยมีที่ยืนด้านสิทธิมนุษยชนในสายตาประชาคมโลก ไม่ถูกมองว่าเป็นประเทศที่ใจแคบและปิดกั้นสิทธิและเสรีภาพของประชาชน

      และถึงท่านไม่ได้ศรัทธาในประชาธิปไตยและไม่สนใจสายตานานาชาติด้วย แต่ยังรักสถาบันพระมหากษัตริย์ และต้องการให้สถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่อย่างสง่างาม ท่านก็ต้องร่วมเรียกร้องให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ได้ในระบอบประชาธิปไตยแบบสากล

      และสุดท้ายแม้ท่านจะไม่สนใจสิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้กล่าวถึงเลย ท่านก็ควรร่วมเรียกร้องให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพื่อไม่ให้ใช้กฎหมายมาตรานี้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งทำร้ายคนรอบตัวคุณ กระทั่งตัวคุณ รวมถึงคนที่คุณรัก

      การยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 คือ การปลดปล่อยประชาชนจากพันธนาการไปสู่อิสรภาพ ปลดปล่อยสังคมจากความล้าหลังไปสู่ความก้าวหน้าและปลดปล่อยประเทศชาติจากเผด็จการไปสู่ประชาธิปไตย การปลดปล่อยที่กล่าวถึงนี้จะเกิดขึ้นได้ด้วย 1 ล้านชื่อของประชาชนที่ร่วมกันยืนยันประกาศเจตนารมณ์ว่า ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จะต้องถูกยกเลิกและจะต้องไม่มีใครถูกกลั่นแกล้ง ถูกคุมขัง หรือต้องทนทุกข์ทรมานจากกฎหมายมาตรานี้

      สุดท้าย ข้าพเจ้าขอส่งความหวัง ความเชื่อมั่นและกำลังใจจากเรือนจำถึงพี่น้องผู้ร่วมกันเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายป่าเถื่อนมาตรานี้ทุกท่าน ขออิสรภาพ ความก้าวหน้า ประชาธิปไตย จงบังเกิดแก่ทุกท่าน

         112 จงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ

         ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ

เชิญทุกท่าน ร่วมลงนามเสนอกฎหมายยกเลิกมาตรา 112 ได้ที่ https://www.no112.org/…