
เชิญร่วมร่วมลงชื่อเสนอกฎหมายยกเลิกมาตรา 112
นักวิชาการและนักการเมืองจำนวนหนึ่งลังเลใจในการร่วมลงนามเสนอกฎหมายยกเลิกมาตรา 112 ด้วยความกังวลว่า ฐานความผิดหมิ่นประมาทมีความสัมพันธ์กับหมิ่นประมาทอื่นๆ ซึ่งต้องเข้าไปแก้ไขตามไปด้วย และกังวลว่า กษัตริย์จะไม่ได้รับการคุ้มครองกรณีหมิ่นประมาท รวมทั้งการยกเลิกไปแล้วในส่วนของอาฆาตมาดร้ายจะไปอยู่ตรงไหน จึงขอเรียนชี้แจงดังนี้
- รัฐบาลในอดีตมาจนถึงรัฐบาลประยุทธ์ใช้มาตรา 112 ลิดรอนเสรีภาพแสดงความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ทำให้ผู้รักชาติ รักประชาธิปไตยและแกนนำราษฎรถูกคุมขังจำนวนมาก เป็นจุดเริ่มต้นของการเรียกร้องให้ยกเลิกไปเสีย เพื่อเป็นหลักประกันเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย
- ในส่วนของอาฆาตมาดร้าย เมื่อยกเลิกไปแล้ว ยังมีมาตรา 110 “ผู้ใดกระทําการประทุษร้ายต่อพระองค์หรือเสรีภาพของพระราชินีหรือรัชทายาท หรือต่อร่างกายหรือเสรีภาพของผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจําคุกตลอดชีวิต หรือจําคุกตั้งแต่สิบหกปีถึงยี่สิบปี
“ผู้ใดพยายามกระทําการเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน ดังนั้นเพียงแค่คิดในใจ หรือพูดออกมาก็เข้าข่าย ประทุษร้าย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีเรื่อง อาฆาตมาดร้าย เพิ่มไปอีก เพราะเป็นการซ้ำซ้อนตามกฎหมายอยู่แล้ว - เมื่อยกเลิกไปแล้ว ยังมีกฎหมายหมิ่นประมาท(326-333)คุ้มครองบุคคล และ คุ้มครองเจ้าหน้าที่ของรัฐ(มาตรา 136 ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน )
- มาตรา 112 ก่อให้เกิดวิกฤติการเมืองและอนาคตของประเทศไทย จนถูกนานาชาติตำหนิ ทำให้ภาพลักษณ์สิทธิมนุษยชนประเทศไทยตกต่ำ การยกเลิกม.112 ทำให้ประเทศไทยสามารถอยู่ร่วมกับประชาคมโลกได้อย่างสง่างาม เป็นผลดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการค้าขาย การลงทุนจะขยายตัวตามไปด้วย
- ส่วนเรื่องหมิ่นประมาทอื่นๆ ให้ความคุ้มครองส่วนบุคคล ทุกคนภายใต้กฎหมายเดียวกันดีอยู่แล้ว ยังไม่ปรากฏเป็นปัญหาในระดับสังคม จึงเสนอเพียงให้ยกเลิกมาตรา 112 ไปก่อนโดยที่ยังมีกฎหมายหมิ่นประมาทอื่นๆรองรับอยู่แล้ว เพื่อให้ประเทศไทยไปสู่สังคมอารยะและเจริญก้าวหน้าต่อไป
จึงขอเรียนเชิญทุกท่าน ร่วมลงนามเสนอกฎหมายยกเลิกมาตรา 112 ได้ที่ https://www.no112.org/…
