
ครย.ประจานรัฐไทยละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นภัยต่อมนุษยชาติ
( 10 ธ.ค. 64 -11.00 น.) คณะราษฎรยกเลิก 112 (ครย.) โดยองค์การบริหารนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ กลุ่ม24มิถุนาประชิปไตย เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี จำนวน 50 คนมารวมตัว ด้านหน้า สำนักงานองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย ถนนราชดำเนินนอก ชูป้าย และยื่นหนังสือถึงคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ โดยเจษฎา ศรีปลั่ง กล่าวถึงสถายนการณ์สิทธิมนุษยชนที่มีความรุนแรงภายใต้รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา มีการอุ้มฆ่า ใช้มาตรา 112 คุกคามเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน จนมีนักโทษการเมืองถูกคุมขังถึง 25 คน
ผู้ชุมนุมโดย นส.เพลง ทัพมาลัย นายกองค์การบริหารนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ขึ้นอ่านแถลงการณ์เป็นภาษาอังกฤษเรียกร้องต่อองค์กรสิทธิมนุษยชนทั่วโลกให้กดดันรัฐบาลประยุทธ์ด้วยการลดระดับความน่าเชื่อถือด้านเสรีภาพประชาธิปไตย งดเว้นการการเชิญรัฐบาลไทยในการประชุมสหประชาชาติเพื่อให้รัฐบาลไทยยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชน
นางสาวสิตานันท์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธ์ ผู้ลี้ภัยการเมืองที่ถูกอุ้มหายไป กล่าวว่า ได้ร้องขอความยุติธรรมในกรณ๊ที่น้องชายถูกบังคับสูญหายแต่กลับถูกรัฐบาลประยุทธ์ใช้พรก.ฉุกเฉินดำเนินคดี เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ด้านนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำ คณะราษฎรยกเลิก 112 กล่าวว่า ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลประยุทธ์มีการอุ้มฆ่า มีการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมจนมีผู้เสียชีวิตเป็นเยาวชน 1 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก แม้แต่ ผู้เดือดร้อนอย่างชาวจะนะที่มาทวงสัญญากับรัฐบาลก็ถูกสลายการชุมนุมไปหรือสหภาพแรงงานไทรอัมพ์มาร้องเรียนรัฐบาลก็ถูกดำเนินคดีเช่นกัน รัฐบาลประยุทธ์ จึงเป็นอาชญากร ที่เป็นภัยร้ายแรงต่อมนุษยชาติ
หลังการปราศรัยมีการจุดเทียน ไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตจากการถูกอุ้มหายที่หน้าสำนักงานยูเอ็นและได้ยื่นหนังสือผ่านตัวแทนของสำนักงานยูเอ็นจนยุติการชุมนุมเมื่อเวลา 12.30 น.
กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย-เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี
องค์การบริหารองค์การนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
46/428 ม.ริมสวน ประชาอุทิศ12 ดอนเมือง กรุงเทพ 10210 โทร.065-5575005
10 ธันวาคม 2563
เรื่อง ขอให้กดดันรัฐบาลประยุทธ์ ยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชน
เรียน คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีถึง 7ปี เคยประกาศว่า รัฐบาลไทยมีเจตนารมณ์และมุ่งมั่นในการส่งเสริมคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนานาประเทศ (12.261) ต่อมาในวันที่ 8 พฤศจิกายน2564 รัฐบาลแถลงว่า ประเทศไทยยึดมั่นสิทธิมนุษยชน โดยตอบรับข้อเสนอแนะในการเพิ่มมาตรการและการสนับสนุนสิทธิมนุษยชน แต่ทว่าตลอดระยะเวลา7ปี มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง มีการใช้ความรุนแรงทางการเมืองกระทำต่อประชาชนอย่างโหดเหี้ยมดังต่อไปนี้
1. ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมานักเรียน นักศึกษา ประชาชนได้รวมตัวกันเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกษัตริย์ เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย แต่ถูกรัฐบาลปราบปรามอย่างรุนแรงด้วยการใช้กำลังตำรวจและอาวุธเข้าสลายการชุมนุม จนเยาวชนเสียชีวิต1 ราย บาดเจ็บอีก 20 รายมีการดำเนินคดีด้วยข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐเป็นจำนวน 1684 คน
2. มีการใช้มาตรา 112 หรือ กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งเป็นกฎหมายป่าเถื่อน ล้าหลัง ตั้งข้อกล่าวหาจำนวนถึง 162 คน เข้าทำการจับกุมคุมขังแกนนำราษฎร ให้ได้รับความทรมาน โดยไม่ให้สิทธิการประกันตัวและการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมจำนวน 5 รายด้วยกัน ในขณะที่อีกหลายคนได้รับการประกันตัวด้วยเงื่อนไขจำกัดสิทธิเสรีภาพการแสดงความเห็นต่อกษัตริย์และการเข้าร่วมการชุมนุมที่มีความวุ่นวาย
3.ผู้ใช้แรงงานบริษัทบริลเลียนท์ อัลไลแอนซ์ ไทย โกลบอล 300 คนได้มาร้องเรียนรัฐบาลกรณีถูกเลิกจ้างไม่ได้รับเงินค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงานเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 แต่รัฐบาลอ้างพรก.ฉุกเฉินดำเนินคดีแกนนำ 6 คน โดยที่ได้ร้องเรียนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแล้ว แต่ไม่สามารถคุ้มครองสิทธิมนุษยชนได้
4.ชาวบ้านจากอ.จะนะ จ.สงขลา เดินทางมาติดตามสัญญาที่รัฐบาลจะหยุดการสร้างนิคมอุตสาหกรรม เพื่อศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของชาวบ้าน แต่รัฐบาลใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมและดำเนินคดีชาวบ้าน 36 คน โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามการชุมนุมอีก
5.ครอบครัวผู้สูญหาย เช่นนส. สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาววันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกบังคับสูญหาย ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลสืบหาผู้กระทำความผิด และนาง สุรีรัตน์ ชิวารักษ์ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้ลูกชาย พริษฐ์ ชีวารักษ์ที่เป็นนักโทษการเมือง ถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉิน
6.อินเตอร์เนชั่นแนล แอมเนสตี้ ประเทศไทย รณรงค์เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมืองแต่รัฐบาลให้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ออกมาขับไล่แอมเนสตี้ออกจากประเทศไทย (25.11.64)
7.ศาลรัฐธรรมนูญได้รับการแต่งตั้งมาจากคณะรัฐประหารและการรับรองจากวุฒิสมาชิกที่ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นคนแต่งตั้ง ได้วินิจฉัยให้การแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมโดยสงบของแกนนำกลุ่มราษฎร เป็นการล้มล้างการปกครองที่มีโทษประหารชีวิตและคุกคามสื่อมวลชนไม่ให้มีการนำเสนอข่าวการเคลื่อนไหวเพื่อการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
จะเห็นได้ว่าประเทศไทยได้เกิดวิกฤติการณ์สิทธิมนุษยชนภายใต้รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อให้เกิดการเสียชีวิต การจับกุมคุมขัง การปิดกั้นเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมโดยสงบ การใช้กฎหมายในการปิดกั้นความจริงและใช้กระบวนการยุติธรรมในการจับกุมคุมขังให้เกิดความทุกข์ทรมาน ก่อผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างจึงถือได้ว่ารัฐบาลประยุทธ์ได้ใช้อำนาจทั้งจากทหาร ตำรวจ ตุลาการ ก่ออาชญากรรมต่อคนไทยเป็นภัยร้ายแรงต่อมนุษยชาติ
การกระทำของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ได้ปฏิบัติตามพันธสัญญาสิทธิมนุษยชน เท่านั้นแต่ยังได้โกหก หลอกลวง ต่อนานาชาติ ว่า ยึดมั่นในสิทธิมนุษยชน แต่ความจริงกลับใช้อำนาจละเมิดสิทธิมนุษยชน กดขี่ ปราบปรามประชาชนผู้เรียกร้องสิทธิเสรีภาพประชาธิปไตยด้วยความรุนแรง โหดร้าย
จึงขอเรียกร้องต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในการแสดงออกในการการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยอย่างจริงจัง ด้วยการประณามพฤติกรรมละเมิดสิทธิมนุษยชน ลดระดับความน่าเชื่อถือด้านสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย
ขอเรียกร้องต่อนานาชาติในการกดดันการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลไทยด้วยการงดเว้นการเชิญตัวแทนรัฐบาลไทยในการประชุมนานาชาติ งดเว้นการประชุมความร่วมมือนานาชาติในทุกด้าน งดเว้นการซื้อขายอาวุธยุทโธปกรณ์และเครื่องมือสลายการชุมนุมของรัฐบาลไทย งดเว้นความร่วมมือระหว่างประเทศในกระบวนการยุติธรรม ฯลฯ เพื่อให้รัฐบาลไทยหยุดการคุกคาม ปราบปรามประชาชน ปล่อยตัวนักโทษการเมือง แก้ไขกฎหมายให้ยกเลิกมาตรา 112 หยุดการคุกคามเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและหยุดการใช้กฎหมายที่เป็นการคุกคามเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบ
ขอแสดงความนับถือ
เพลง ทัพมาลัย
นายกองค์การบริหาร องค์การนิสิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ตะวัน ตัวตุลานนท์ เจษฎา ศรีปลั่ง
กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี
เครดิตภาพ M Thai

