
ม๊อบราษฎรบุกทำเนียบรัฐบาลเรียกร้องแก้ปัญหาของแพง ด้วยการลดภาษีน้ำมัน ลดค่าเทอม เพิ่มเงินเบี้ยชราและค่าจ้างขั้นต่ำ
(18.1.65 เวลา10.00 น.)หน้าทำเนียบรัฐบาล 5 กลุ่มคณะราษฎรประกอบไปด้วย เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย องค์การบริหารนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี ทะลุฟ้า นำโดย ธนพร วิจันทร์ และสมยศ พฤกษาเกษมสุข นำประชาชนและผู้ใช้แรงงานกว่า 150 คน บุกทำเนียบรัฐบาล ประเดิม ม๊อบแรกของปี 2565 เรียกร้องรัฐบาลแก้ปัญหาของแพง ค่าแรงต่ำ
เวลา 10.00 น. กลุ่มราษฎรรวมตัวหน้าทำเนียบรัฐบาลโดยตำรวจนำแผงเหล็กปิดกั้นถนนบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ในขณะที่รถเครื่องขยายเสียงของกลุ่มทะลุฟ้า ไม่สามารถเข้ามาจอดถึงหน้าทำเนียบรัฐบาลได้ ทำให้เกิดเหตุโต้แย้ง ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาว่าการชุมนุมมีความผิด พรก.ฉุกเฉินในขณะที่นายสมยศ พฤกษาเกษมสุขแกนนำโต้แย้งว่า ตำรวจทำผิดต่อหน้าที่ในการขัดขวางสิทธิเสรีภาพการชุมนุมและการร้องเรียนของประชาชนที่มีความเดือดร้อนจากภาวะสินค้าราคาแพงในขณะนี้ ในเวลา 11.30 น.ผู้ชุมนุมถือป้ายประชิดแผงเหล็กและมีแกนนำปผลัดกันขึ้นปราศรัย โจมตีความล้มเหลวของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
นส.ธนพร วิจันทร์ น.ส.ธนพร วิจันทร์ แกนนำกลุ่มเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน กล่าวว่า รัฐบาลพยายามจะทำลายประเทศด้วยการบริหารผิดพลาด หมูราคา 300 บาทต่อ 1 กิโลกรัมไม่เคยมี มีรัฐบาลชุดนี้ชุดเดียว ที่เอื้อกับกลุ่มทุนและการผูกขาด แล้วเกษตรกรรายย่อยได้ตายกันหมด ถ้าวันนี้รัฐบาลยังแก้ปัญหาไม่ตรงจุดไม่แก้ปัญหาที่แท้จริง แล้วประเทศนี้จะดำเนินต่อไปได้อย่างไร
นายเซีย จำปาทองปรานสหพัน์แรงงานสิ่งทอ กล่าวว่า “เงินเดือนค่าแรงขั้นต่ำที่พรรคพลังประชารัฐ เคยหาเสียงไว้ว่าจะเพิ่มค่าแรงเป็น 425 บาทต่อวัน คนที่จบป.ตรี ต้องได้เงินเดือน 20,000 บาท เด็กจบอาชีวะต้องได้ 18,000 บาท จนได้เป็นรัฐบาลแล้ว ยังไม่ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้เลย ”
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ขึ้นปราศรัย ว่า เหตุที่หมูราคาแพงเกิดจากมีการจงใจนำโรคอหิวามาปล่อยทำลายหมูของเกษตรกรรายย่อย ขณะที่ทุนผูกขาดค่าเนื้อหมู 5 รายกักตุนเนื้อหมู ในห้างสรรพสินค้าจึงมีแต่หมูกักตุนข้ามปี ทำกำไรมหาศาลเมื่อมหูราคาแพงถึงกก.ละ250 บาท จึงเรียกร้องให้รัฐเยียวยาเกษตรกรเลี้ยงหมูตามความเสียหายจริง ตั้งกองทุนให้เกษตรกรเลี้ยงหมูต่อไป และให้ตรวจสอบว่า ใครนำเชื้ออหิวามาปล่อย และมีการกักตุนหมูค้ากำไรเกินควรหรือไม่
เวลา 12.00 น.นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมารับหนังสือข้อเรียกร้อง โดยกลุ่มทะลุฟ้า นำลูกหมูสองตัวมามอบให้นายกรัฐมนตรี และสาธิตการเลี้ยงหมูให้ดูเป็นตัวอย่าง โดยมีข้อความเขียนที่ตัวหมูว่า ปกปิดโรคระบาด
หนังสือระบุมาตรการเร่งด่วนแก้ปัญหาของแพงค่าแรงต่ำ 3 ข้อคือ 1.ลดค่าใช้จ่าย ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ลดค่าเทอม 50 เปอร์เซ็นต์ 2.เพิ่มรายได้ เบี้ยคนชราเดือนละ 3000 บาท เพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 425 บาทสงเคราะห์บุตรเดือนละ1200 บาท 3. ลดราคาสินค้า แก้ปัญหาผูกขาด ตรวจสอบการปกปิดข้อมูลโรคระบาดหมูและกักตุนสินค้า เยียวยาค่าเสียหายให้เกษตรกร
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ประกาศในตอนท้ายว่า วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 11.00 จะนำม๊อบบุกที่ทำการพรรคเพื่อไทยเพื่อให้พรรคการเมืองทำหน้าที่แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนกันต่อไป

เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี
องค์การบริหารองค์การนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทะลุฟ้า
46/428 ม.ริมสวน ประชาอุทิศ 12 ดอนเมือง กรุงเทพ 10210 โทร.065-5575005
วันที่ 18 มกราคม 2565
เรื่อง ข้อเรียกร้องเร่งด่วนแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน
เรียน รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา
ในขณะที่เศรษฐกิจพังทลาย ธุรกิจล้มละลาย คนว่างงานและความยากจนขยายตัวมากขึ้น ปรากฏว่า สินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นการดำรงชีวิตขึ้นราคาพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ ไข่ น้ำมันปาล์ม ทำให้ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก รายได้ตกต่ำนำมาซึ่งความทุกข์ยากเดือดร้อนแสนสาหัสของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อหมูราคาแพง อันเป็นผลมาจากการฉวยโอกาสเก็งกำไรจากการ กักตุน และผูกขาดการค้าเนื้อหมู และการเอื้อประโยชน์ให้กับ กลุ่มทุนผูกขาดในกิจการผลิตและค้าปลีกเนื้อสัตว์ยักษ์ใหญ่กว่า 5 บริษัท จึงขอให้รัฐบาลแก้ปัญหาหมูราคาแพงดังต่อไปนี้
1.ตรวจสอบการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African swine fever: ASF)ว่ามีการนำมาปล่อยแพร่ระบาดเพื่อทำลายประชากรหมูในกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อย ทำให้บริษัทขนาดใหญ่ผูกขาดแทบตลอดห่วงโซ่การผลิต ครอบคลุมการผลิตอาหารสัตว์ และการกระจายตลาด ได้กำไรทั้งการส่งออกและกำหนดราคาสูงในตลาด ทั้งนี้ปรากฏว่ารัฐบาลได้ปกปิดข่าวสารการแพร่ระบาดเอื้อประโยชน์ให้บริษัทผูกขาดได้ประโยชน์จากการส่งออก และขอให้ตรวจสอบ การค้าปลีกเนื่องจากพบว่า หมูในห้างสรรพสินค้า เป็นหมูกักตุนข้ามปี จึงเป็นไปได้ว่า มีการกักตุนหมูไว้ก่อนล่วงหน้าและนำมาจำหน่ายในช่วงหมูราคาแพงทำกำไรมหาศาล ทั้งนี้รัฐบาลต้องเยียวยาเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อยตามความเสียหายจริง จัดตั้งกองทุนส่งเสริมเกษตรกรเลี้ยงหมูรายย่อย ตรวจสอบการผูกขาดและการกักตุนสินค้าด้วยการกำหนดราคาสูง ทำการควบคุมราคาสินค้าและลดราคาสินค้าไม่ให้มีการผูกขาดและการค้ากำไรเกินควร เปิดเผยต้นทุนและกำไรในสินค้าทุกชนิด
2.เพื่อเป็นการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น บรรเทาความเดือดร้อน เป็นการเพิ่มกำลังซื้อ เพื่อขยายการบริโภคและทำให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อไปยิ่งขึ้น ขอเรียกร้องต่อรัฐบาลด้วยมาตรการ “ลดทอนรายจ่ายเพิ่มรายได้” อันจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตในระยะสามปีข้างหน้า(2565-2567)ดังต่อไปนี้
2.1ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) จาก 7% เป็น 5% เพื่อให้สินค้าอุปโภคบริโภคและภาคบริการมีราคาถูกลง เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและลดทอนภาวะเงินเฟ้อ รักษากำลังซื้อของประชาชน รวมทั้งยกเลิกภาษีสรรพสามิตน้ำมันเพื่อให้คนไทยได้ใช้น้ำมันทุกชนิดราคาถูกอีกลิตรละ 6 บาท เป็นการลดต้นทุนการผลิต การขนส่ง ทุกภาคส่วนให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ อันจะส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศมีการฟื้นตัว
2.2ให้มีการลดค่าบำรุงการศึกษาหรือค่าเทอมและค่าใช้จ่ายการศึกษาของนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นประถมถึง มัธยม มหาวิทยาลัย เป็นเวลา 3 ปี(2565-2567 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือน พร้อมทั้งบรรจุครูอัตราจ้างและพนักงานสัญญาจ้างในระบบการศึกษาให้เป็นข้าราชการประจำ
2.3 ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสาธารณะ (BTS/MRT) ครึ่งราคา ควบคุมค่าไฟฟ้า แก๊สหุงต้ม ครัวเรือน น้ำประปา ไม่ให้มีราคาสูงเกินไปจนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
2.4 เพิ่มเงินยังชีพผู้สูงอายุและผู้พิการทุกคนจากเดิมเดือนละ 600 บาทเป็นเดือนละ3000 บาทสร้างหลักประกันการดำรงชีพของคนชราอายุ 60 ปีขึ้นไปเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรถ้วนหน้าเดือนละ 1200 บาท
2.5 เพิ่มเงินค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 425 บาท เพิ่มเงินเดือนผู้จบปริญญาตรีเดือนละ 20000 บาท และ อาชีวะเดือนละ 18000 เป็นไปตามที่พรรคพลังประชารัฐได้หาเสียงไว้เมื่อปี 2562
ข้อเรียกร้องดังกล่าวเป็นมาตรการเร่งด่วน เป็นการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ที่สามารถทำได้ทันที เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนแล้ว ยังเป็นการกระจายรายได้ที่เป็นธรรม เพื่อให้งบประมาณแผ่นดินที่มาจากเงินภาษีอากรของประชาชนได้นำมาสร้างรัฐสวัสดิการและความมั่นคงทางสังคมให้กับประชาชนต่อไป อันจะทำให้เศรษฐกิจมีอัตราการเจริญเติบโตได้ในระยะสามปีข้างหน้า ทั้งนี้หากรัฐบาลจะต้องปรับลดงบประมาณค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองและขจัดการทุจริตโกงกิน ควบคุมราคารสินค้า ป้องการกันผูกขาดและการค้ากำไรเกินควร จะทำให้มีงบประมาณ เพื่อมีรายได้เพียงพอตอบสนองต่อข้อเรียกร้องดังกล่าว
จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการเร่งด่วนเพื่อให้ปี 2565 เป็นปีของการฟื้นฟูเศรษฐกิจและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น
ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
ธนพร ศรีจันทร์
เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน
เพลง ทัพมาลัย
องค์การบริหารองค์การนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สมยศ พฤกษาเกษมสุข
กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย
พิม์ชนก ใจหงษ์
ทะลุฟ้า
เจษฎา ศรีปลั่ง
เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี





