ใช้พรก.ฉุกเฉินเล่นงานแกนนำราษฎร 25 คน ชุมนุมเค้าท์ดาวน์หน้าเรือนจำ
สน.ประชาชื่น โดยพันตำรวจโทธรรมภณ วงศ์จันทร์เพ็ญ รองผู้กำกับสอบสวน พร้อมด้วยพ.ต.ท.ณรณฤทธ์ ภูแก้ว สารวัตรสอบสวน ออกหมายเรียกดำเนินคดีแกนนำราษฎรถึง 25 คน ซึ่งมาร่วมการชุมนุมเค้าท์ดาว ส่งท้ายปี2564 ต้อนรับปี 2565 อยู่เป็นเพื่อนย้ำเตือนความยุติธรรม จัดโดยเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี มีผู้เข้าร่วมการชุมนุมกว่า 500 คน ที่หน้าเรือนจำกลางคลองเปรมในวันที่ 31 ธันวาคม 2564
ในวันดังกล่าว มีการร้องเพลง การปราศรัย การแสดง การอ่านกวี ยิงพลุ อ่านสาร์นอวยพรปีใหม่ เรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำคณะราษฎรที่ถูกคุมขังอยู่เป็นจำนวนกว่า20 คน
ตำรวจออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2565 และ ครั้งที่สองทันทีในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 แกนนำทยอยรายงานตัวจนกระทั่งล่าสุดวันที่ 19กุมภาพันธ์ 2565 แกนนำชุดสุดท้ายเข้ารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหา ประกอบไปด้วย สมยศ พฤกษาเกษมสุข โชคดี ร่มพฤกษ์ รัชนก มหาวรรณ ณัฏฐิดา วังมีปลา เจษฎา ศรีปลั่งทั้งหมดปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและจะให้การข้อเท็จจริงเป็นหนังสือภายในวันที่ 21 มีนาคม 2565
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลประยุทธ์ใช้ พรก.ฉุกเฉินมาคุกคามเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมโดยสงบ เป็นการใช้กฎหมายอย่างบิดเบือน เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง อย่าหวังว่าจะทำให้เราหวาดกลัว แต่จะเคลื่อนไหวกันต่อไป ทั้งนี้จะได้เดินหน้าตอบโต้ ด้วยการร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุติธรรมและกรรมาธิการการมีส่วนร่วมประชาชน สภาผู้แทนราษฎรกันต่อไป
นายโชคดี ร่มพฤกษ์ ศิลปินนักดนตรี เปิดเผยว่า ตนถูกดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉิน เป็นจำนวนสูงสุดถึง 40 คดีด้วยกัน เพราะ เล่นดนตรีและร้องเพลงที่หน้าเรือนจำหลายวันและไปร่วมการชุมนุมทุกครั้ง อำนาจป่าเถื่อนไม่อาจหยุดยั้งเสียงดนตรีและเสียงเพลงของพวกเราที่จะยังคงร้องเพลง เต้นรำ เรียกร้องเสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ กันต่อไป ยิ่งกดดันมากเท่าไร พวกเราก็จะยิ่งต่อสู้มากขึ้นเท่านั้น
ประกายไฟ 