
สันดานเผด็จการ VS วุฒิภาวะประชาธิปไตย
13.3.66 ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางไปศาลาประชาคมบ้านโป่ง ราชบุรี เวลา 11.30 น.มีสุภาพสตรีสูงวัย(63ปี)ยืนดักพบประยุทธ์ ตะโกนตำหนิการทำงานของประยุทธ์ แต่เจอตำรวจ เข้าสกัด ด้วยการกระชากหญิงสูงอายุเพื่อนำตัวออกไป ยังซอกรถตู้ และเอาร่มกางปิดบัง เพื่อไม่ให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ และบางช่วงได้มีการเอามือปิดปาก-ใบหน้า ไม่ให้ตะโกนใส่ขบวนรถนายกรัฐมนตรี สตรีสูงวัยคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า-แขน ตำรวจนำตัวไปที่สภอ.บ้านโป่งตั้งข้อหา ฝ่าฝืน-ขัดขวาง คำสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ประยุทธ์ จันทร์โอชาชอบสร้างภาพ-จัดฉากว่าเป็นคนที่ประชาชนเข้าถึงได้ ชอบการยกยอปอปั้น ออดอ้อนห่วงใยประชาชน แต่พอเจอประชาชนที่ต่อต้าน คัดค้าน ขนาดที่เป็นคนสูงอายุ ตัวเปล่า ไปชูสามนิ้ว ถึงกับลืมตัวสร้างภาพแสดงถึงสันดานเผด็จการ ขาดวุฒิภาวะเป็นผู้นำทางการเมือง ด้วยการให้ตำรวจใช้ความรุนแรง สกัดกั้นประชาชนที่ต่อต้านคัดค้าน และแสดงอาการโมโหร้ายออกมาให้เห็น
ผิดกับพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล วันที่ 12 มี.ค. 2566ที่สามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพมหานครพรรคก้าวไกล ตั้งเวทีปราศัยหาเสียง เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม พรรคก้าวไกล ทั้ง 33 เขต ปรากฏว่ามีบุคคล 4 คน เป็นชาย 1 คน สวมหมวกแก็ปและผ้าคลุมลายทหารปกปิดใบหน้า และมีผู้หญิงอีก 3 คน ยืนถือป้ายข้อความต่อต้าน บริเวณใกล้กับเวที ไม่มีความรุนแรงใดๆเกิดขึ้น ไม่มีการสกัดกั้น ช่อ พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ได้เดินเข้าไปสอบถามความต้องการของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ด้วยความสุภาพ และให้อ่านป้ายข้อความที่ถือมา นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย มีวุฒิภาวะที่รับฟังความเห็นต่าง แม้ว่าจะมีเจตนาเข้ามาปั่นป่วนก็ตาม
นี่คือความแตกต่างระหว่าง สันดานเผด็จการ VS วุฒิภาวะประชาธิปไตย


