
แกนนำราษฎร รณรงค์ “โหวตเพื่อเปลี่ยน “ เลือกตั้งโปร่งใส ชัยชนะประชาธิปไตย ปฏิรูปกษัตริย์
23.3.66 อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แกนนำราษฎรประกอบไปด้วยนายอานนท์ นำภา นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล นางสาวธนพร วิจันทร์ นส.กัลยากร สุนทรพฤกษ์ นส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แถลงข่าวยืนยันข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ1.เลือกตั้งบริสุทธิ์ ยุติธรรม 2. ประชาธิปไตยชนะเลือกตั้ง 3. ปฏิรูปทุกองคาพยพไปสู่การปฏิรูปกษัตริย์
นส.ธนพร วิจันทร์กล่าวถึง คณะราษฎร ได้ต่อสู้มีข้อเรียกร้องสามข้อคือ ประยุทธออกไป แก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปกษัตริย์ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมาแม้ว่าจะยังไม่บรรลุเป้าหมายทั้งหมดแต่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆมากมายเช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การปรับตัวของสถาบันกษัตริย์ในด้านต่าง โดยทางราษฎรยังคงยืนยันผลักดันให้เผด็จการออกไป เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ของประชาชนและปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
นส.กัลยกร สุนทรพฤกษ์ แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์การชุมนุม กล่าวว่า การเลือกตั้งไม่ใช่จุดจบของกระบวนการประชาธิปไตย เพราะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย การยุบสภายังไม่ใช่ฉากสุดท้ายดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่เปลี่ยนตัวแสดงใหม่ แต่หวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการปิดสวิชต์เผด็จการ สร้างสรรค์ประชิปไตยและนำมาซึ่งชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน
นายอานนท์ นำภา กล่าวว่า จากจุดเริ่มต้นที่มีการอุ้มฆ่าวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นชนวนให้ขบวนการคนหนุ่มสาวออกมารวมตัวกันทวงคืนความยุติธรรม จนทำให้ขณะนี้มีกฎหมายป้องกันการทรมานและการอุ้มหาย ถือเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จร่วมกันของราษฎรที่ผ่านมา ขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองตระหนักว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นผลมาจากการต่อสู้ของคนหนุ่มสาวที่ต้องบาดเจ็บ สูญเสียอิสรภาพ จึงขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองเปลี่ยนแปลงการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ หลังเลือกตั้งเราจะนำผู้ลี้ภัยการเมืองกลับบ้านทุกคน เราจะยุติการดำเนินคดีที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมืองทุกคน และสร้างประชาธิปไตย
นส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ได้แถลงขอเปิดการณรงค์ โหวตเพื่อเปลี่ยน Vote for Change มีหลักการ 3 ข้อคือ 1. การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม โปร่งใส ไม่เห็นด้วยกับการที่กกต.ออกระเบียบที่จะไม่นับคะแนนแบบ Real time 2. พรรคการเมืองประชาธิปไตยได้ชัยชนะถล่มทลาย ร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาล 3. ปฏิรูปกษัตริย์ ให้สภาพิจารณาต่อข้อเรียกร้องยกเลิกมาตรา 112 ปฏิรูปทุกองคาพยพ
นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล อ่านแถลงการณ์ระบุที่ผ่านมาประชาชนถูกกดขี่จากทรราชย์ที่สับปลับ ขอเรียกร้องให้ทรราชย์ประยุทธ์ออกไปจากการเมือง 2. แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ยกเลิกการต่อท่ออำนาจของทรราชย์เผด็จการเช่น ยกเลิกสมาชิกวุฒิสภา 250 คน และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ดังนั้นจึงขอให้1.มีการจัดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม 2 พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยได้ชัยชนะ ร่วมมือกันเอาชนะเผด็จการผ่านการเลือกตั้ง ได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล 3. รัฐบาลต้องเดินหน้าสู่การปฏิรูปทุกองคาพยพ ร่างรัฐธรรมนูญใหม่และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
ทั้งนี้ในวันที่ 28 มีนาคม 2566 จะมีการแถลงรายละเอียดถึง ปฏิบัติการของ โหวตเพื่อเปลี่ยนหรือ Vote for Change
เครดิตภาพ : สำนักข่าวราษฎร

แถลงการณ์ราษฎรและเครือข่าย ประกาศเจตจำนงอันเป็นฉันทามติร่วมกันของฝ่ายประชาชน สาระสำคัญระบุว่า
บัดนี้ แม้วาระของรัฐสภาและรัฐบาลทรราชจะได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ขอเราประชาชนจงอย่าได้วางใจ เนื่องจาก แม้จะปราศจากตัวทรราชประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ระบอบประยุทธ์นี้ยังคงดำรงอยู่ บรรดาทรราชเผด็จการชนชั้นนำนี้ ได้จงใจออกแบบกลไกในการรักษาและสืบทอดอำนาจให้บรรจุอยู่ในรัฐธรรมนูญ ผ่านสถาบันต่างๆ เป็นต้น ว่า ส.ว. ที่มีอำนาจในการเลือกนายกใน 5 ปีแรก, การกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี, กกต. ที่ปราศจากความยึดโยงกับประชาชน และมีแนวโน้มจะเป็นเครื่องมือของเผด็จการ รวมถึงเครื่องมืออีกนานัปการที่ทรราชเผด็จการชนชั้นนำจะสามารถควบคุมได้
ทั้งนี้ เพื่อการมีชัยเหนือระบอบทรราชชนชั้นนำ การต่อสู้ของเราฝ่ายประชาธิปไตยยังคงต้องดำเนินต่อไป การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นหมุดหมายสำคัญที่ฝ่ายประชาธิปไตยจะต้องยึดกุม และประกาศชัยชนะอย่างท่วมท้นเหนือฝ่ายเผด็จการ เพื่อให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยได้เสียงข้างมาก และร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปโครงสร้างในทุกองคาพยพได้อย่างแท้จริง ในการนี้ เพื่อการเลือกตั้งในฐานะปฏิบัติการร่วมทางการเมือง เราราษฎรขอเปิดตัว กิจกรรมรณรงค์ “โหวตเพื่อเปลี่ยน” (Vote for Change) เพื่อการร่วมมือกันของฝ่ายประชาธิปไตยอันประกอบไปด้วยหลักการสำคัญ 3 ข้อ ที่เป็นทั้งจุดยืน และลำดับข้อเรียกร้องได้แก่
1.การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม โดยประชาชนทั้งประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในการพิทักษ์เจตจำนงในการเลือกผู้แทนราษฎร ผ่านกิจกรรมจับตาเลือกตั้ง สอดส่องการหาเสียงของบรรดาผู้สมัคร กดดันและจับตาการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต. และหน่วยงานรัฐทั้งหลาย ให้อยู่บนหลักของความบริสุทธิ์ โปร่งใส และยุติธรรม
2.การเลือกตั้งที่ฝ่ายประชาธิปไตยชนะไปด้วยกัน เราขอเชิญชวนและเรียกร้องต่อประชาชน และบรรดาพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยทั้งปวง ให้เดินหน้าร่วมกันเอาชนะฝ่ายเผด็จการผ่านการเลือกตั้ง และผนึกกำลังพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเป็นเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล
3.การเลือกตั้งเพื่อการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอย่างแท้จริง ภายหลังจากการจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกันของฝ่ายประชาธิปไตย รัฐบาลจำเป็นต้องเดินหน้าสู่การปฏิรูปในทุกองคาพยพ ทั้งการปฏิรูปเศรษฐกิจ ปฏิรูปทางการเมือง ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และการปฏิรูปสถาบันฯ
ท้ายที่สุดนี้ เราราษฎรและเครือข่าย ขอยืนยันด้วยใจอันเห็นประโยชน์แห่งมหาชนเป็นที่ตั้งว่า การมีชัยเหนือบรรดาองคาพยพทรราชชนชั้นนำนั้น เป็นภารกิจที่ต้องเกิดขึ้นร่วมกันจากฝ่ายประชาธิปไตยทั้งมวล และจะบังเกิดผลได้จริงก็เพียงด้วยการร่วมมือผนึกกำลังกันของพี่น้องประชาชนในฝ่ายประชาธิปไตย จากทุกภาคส่วน ทุกกลุ่ม ทุกพรรคการเมือง เดินหน้าปฏิบัติการร่วมนี้ ด้วยแรงใจ แรงกาย เพื่อการจัดตั้งรัฐบาลของฝ่ายประชาธิปไตย และเดินหน้าสู่การปฏิรูปโครงสร้างในทุกระดับได้อย่างแท้จริง
ราษฎรและเครือข่าย
22 มีนาคม 2566