เรื่องน่าสงสัย ทำไมค่าไฟฟ้าแพงมหาโหด  ใครได้ ใครเสีย ? ใครรวยใครจน ?

เรื่องน่าสงสัย ทำไมค่าไฟฟ้าแพงมหาโหด  ใครได้ ใครเสีย ? ใครรวยใครจน ?

ทำไมต้องจ่ายค่าไฟฟ้ามหาโหด?  ทำไมประยุทธ์ยอมโดนด่าในเรื่องค่าไฟแพง มีค่าตอบแทนที่คุ้มค่าหรือไม่ ?

ประเทศไทยมีก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยพอเพียงสำหรับการผลิตไฟฟ้าอย่างแน่นอน แต่การผลิตไฟฟ้ากลับใช้ก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยเพียง 56.2%  ใช้พลังงานอื่น43.8 % นำเข้าก๊าซ LNG จากต่างประเทศ 18 % ส่วนที่นำมาเพิ่มเป็นค่า FT ที่ว่านำเข้าจากต่างประเทศมีราคาแพง จึงน่าสงสัยว่า ทำไมยังต้องนำเข้าจากต่างประเทศทั้งๆที่ในอ่าวไทยยังมีก๊าซพอเพียงอยู่  ใครคือคนผูกขาดควบคุมก๊าซในอ่าวไทย? แล้วนำเข้าแค่ 18 เปอร์เซ็นต์ ทำไมเอามาเป็นข้ออ้างขึ้นค่าไฟโหด(FT)ขนาดนี้ได้อย่างไรกัน  

ประเทศไทย  มียอดการใช้ไฟฟ้าสูงสุดปีละไม่เกิน 30,000 เมกะวัตต์ กฝผ.มีกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่  15789.58 เมกะวัตต์  หากจะเพิ่มกำลังผลิตเองก็ทำได้แน่นอน  แต่ไม่ทำกัน  ต้องไปซื้อจากเอกชนรวมทั้งหมด27,582.92 เกินความต้องการใช้จริงๆถึง 13372 เมกะวัตต์ เป็นภาระการจ่ายเงินส่วนเกินที่ไม่จำเป็น จริงๆแล้ว เพื่อความมั่นคงพลังงานไฟฟ้าทุกประเทศมีการผลิตไฟฟ้าสำรองไม่เกิน 15 % แต่ประเทศไทยมีการสำรองไฟฟ้าที่รัฐต้องซื้อไฟฟ้าจากเอกชนโดยไม่ได้ใช้ไฟฟ้าส่วนเกินนี้ไปถึง 50 เปอร์เซ็นต์  ใครกันที่ทำเรื่องโง่ๆแบบนี้? แล้วผลักภาระความโง่ไปให้ประชาชน

การไฟฟ้าเรียกเก็บค่าบริการในการจดมิเตอร์ ออกใบแจ้งหนี้ค่าไฟครั้งละ 38.22 บาททำไมผลักภาะส่วนนี้มาให้ประชาชน ยังมีค่าภาษี  ค่าบริหาร ค่าหนี้สิน ทั้งหลายทั้งปวงนำมารวมกันเป็นค่าไฟฟ้ามหาโหด รีดนาทาเร้นเอาจากประชาชน

ทั้งๆที่รู้ว่าเรามีไฟฟ้าสำรองอยู่มากเกินไปแล้ว เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 ทำไมรัฐบาลประยุทธ์ ให้ กฟผ.ไปทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าผูกมัดเป็นเวลา 29ปี กับ Pak Lay Power Company Limited ( ทุนไทยGULF​ และทุนจีน SHK Sinohydro ถือหุ้นใหญ่ )จากประเทศลาว  ซึ่งต้องสร้างเขื่อนแม่น้ำโขง ส่งผลกระทบเสียหายต่อระบบนิเวศน์ และวิถีชีวิตคนไทย-คนลาว  

ทั้งๆที่รู้ว่า การขึ้นค่าไฟฟ้ามหาโหดจะทำให้เสียคะแนนนิยมในการหาเสียงเลือกตั้ง แต่ทำไมรัฐบาลประยุทธ์ยอมให้ขึ้นค่าไฟฟ้ามหาโหดในเดือนเมษายนในครั้งนี้ ?  มีอะไรที่ได้ผลตอบแทนที่สูงไปกว่านี้อีกไหม ในการที่ต้องใช้เงินก้อนโตในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ?

สมยศ พฤกษาเกษมสุข 22.4.66