แฉหน่วยงาน รณรงค์ยกเลิกม.112รับเงินสหรัฐ
เมื่อ 13 พค. 66 สถาบันทิศทางไทยเปิดเผยว่าคณะทูตตะวันตกเชิญเพื่อไทย ก้าวไกล และ พลังประชารัฐ ไปหารือกันเรื่องตั้งรัฐบาลใหม่และการยกเลิก มาตรา 112 ต่อมาวันที่ 19 พค.สนธิ ลิ้มทองกุล เปิดเผยว่า นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ออกสาส์นวันที่ 15 พค.66ระบุข้อความว่า สหรัฐตั้งตารอคอยผลการเลือกตั้ง ข้อความดังกล่าวนี้ เป็นสถานทูตต่างชาติแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ออกอาการ “เสือก” และ “กระสันต์” แบบเก็บอาการไม่อยู่
“ จุดของความขัดแย้งจะเป็นการเปิดประตูให้กองกำลังตะวันตกรุกเข้ามาในประเทศไทยแล้วประเทศไทยก็จะกลายเป็นดินแดนกระสุนปืนตกอย่างแน่นอน ที่สุดแล้ว ก็อย่าไปให้อเมริกาส่งทหารเข้ามาหรือส่งคนเข้ามาหรือขอติดตั้งขีปนาวุธ ให้จับตาสถานกงสุลอเมริกันที่เชียงใหม่ให้ดีๆ เพราะนั่นจะเป็นศูนย์บัญชาการนาโต้แห่งหนึ่งที่เชื่อมกับศูนย์บัญชาการที่นาโต้กำลังตั้งอยู่ที่ญี่ปุ่น ” นายสนธิกล่าว
จนกระทั่งวันนี้24.5.66 ศูนย์กลางประสานงานนักศึกษาอาชีวะ ประชาชนปกป้องสถาบัน ( ศอปส. )เคลื่อนขบวนกว่า 100 คน มายัง สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมแสดงความเป็นห่วง ถึงข้อกังขาต่อพฤติกรรมและบทบาทของสถานทูตฯ ในการสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มราษฎร
ผู้มาชุมนุมคนหนึ่งหน้าสถานทูตสหรัฐ กล่าวว่า พวกที่รณรงค์ยกเลิกมาตรา 112 หลายคนถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 คน พวกนี้บางคนได้รับเงินสนับสนุนจากแหล่งเงินทุนในอเมริกาที่เป็นองค์กรเอกชน หลายคนที่โจมตีการทำงานสว.และรัฐบาลของไทย เมื่อไม่นานมานี้มีเงินหลายสิบล้าน เพิ่งซื้อสำนักงานใหญ่ และจ้างงานมากกว่า 10 คนด้วยกัน
กลุ่ม ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน พร้อมกระทิงแดงไทยพิทักษ์ กลุ่มนักรบเลือดสีน้ำเงิน เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐยุติการแทรกแซงการเมืองไทย อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธาน ศปปส.กล่าวว่า ทางกลุ่มไม่พอใจกรณีซูซาน ไวลด์ เสนอร่างมติที่มีข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลไทยให้แก้กฎหมายมาตรา 112 และเรื่องให้ปล่อยนักโทษทางการเมือง
เมื่อวันที่ 22 พค. นส.จารุณี สุขสวัสดิ์ หรือเปิ้ล ดารานักแสดงชื่อดัง กล่าวถึงจุดยืนคือ ส่วนตัวยืนยันเราไม่ต้องการไปเป็นทาสของสหรัฐฯหรือประเทศอื่นๆ เพราะปัจจุบันก็ลำบากอยู่แล้ว เราจะอยู่กันอย่างไรต่อไปได้ เมื่อถามว่าอนาคตจะเล่นการเมืองหรือไม่ น.ส.จารุณี กล่าวว่า ไม่ ถ้าคิดจะเข้าก็เข้ามาตั้งแต่ช่วงยังมีแรงแล้ว.
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตลอดปี 2565 ได้อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 583 ราย โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว แบ่งเป็น ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 218 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 365 ราย เม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 128,774 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 5,253 คน ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 151 ราย (ร้อยละ 26) เงินลงทุน 39,515 ล้านบาท สิงคโปร์ 98 ราย (ร้อยละ 17) เงินลงทุน 15,893 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 71 ราย (ร้อยละ 12) เงินลงทุน 3,418 ล้านบาท ฮ่องกง 40 ราย (ร้อยละ 7) เงินลงทุน 18,188 ล้านบาท และ จีน 31 ราย (ร้อยละ 5) เงินลงทุน 23,306 ล้านบาท
ประกายไฟ 