ข่าว

รำลึก 18 ปี นวมทอง  ไพรวัลย์ ต้านเผด็จการ  สานต่อประชาธิปไตย นิรโทษกรรม 112 


รำลึก 18 ปี นวมทอง  ไพรวัลย์ ต้านเผด็จการ  สานต่อประชิปไตย นิรโทษกรรม 112 

รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ทำลายประชิปไตย  นำประเทศไทยสู่หายนะ สามัญชน คนขับแท็กซี่ อย่างนวมทอง ไพรวัลย์ ต่อต้านการรัฐประหารด้วยการขับแท็กซี่ชนรถถัง แต่ถูกคณะรัฐประหารหยามเหยียด ไม่มีใครกล้าตายเพื่ออุดมการณ์  นวมทอง ไพรวัลย์ จัดพลีชีพด้วยการแขวนคอตายที่หน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2549 การตายของเขาจุดประกายการต่อสู้ของประชาชนต่อต้านการรัฐประหาร จนมาถึงทุกวันนี้ เป็นเวลา 18 ปีด้วยกัน ในวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ปีนี้ เป็นไปด้วยความคึกคัก มีการนำป้ายข้อความว่า นิรโทษกรรมให้คนเป็น คืนยุติธรรมให้คนตาย นิรโทษกรรม  ทั้งนี้กรุงเทพมหานคร ได้ขยายพื้นที่บริเวณสดมภ์อนุสรณ์เป็นลานกว้างสำหรับจัดการชุมนุมระหว่างเวลา 12.00-14.00 น.วงดนตรี อาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ ศิลปินเพื่อราษฎร และริมทาง ขับขานบทเพลงและกวีโดยทะลุแก๊ส 13.00 ทำบุญ 14.00 น.วางหรีด โดยกลุ่มต่างๆ เช่น คณะก้าวหน้า พรรคประชาชน สมาพันธ์ประชาธิปไตย กลุ่ม 24 มิถุนาประชิปไตย โดยอาจารย์ ธิดา ถาวรเศรษฐ กล่าวสดึดีวีรกรรมนวมทอง ไพรวัลย์ และได้ตั้งชื่อลานกว้างว่า ลานนวมทอง ไพรวัลย์  สำหรับจัดกิจกรรมการชุมนุม ส่วนของ สส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ (ทนายแจม) กล่าวว่า มาร่วมรำลึกทุกปี แม้ชื่อพรรคเปลี่ยน แต่อุดมการณ์ไม่เปลี่ยน คือเราไม่สามารถยอมรับได้กับการรัฐประหารอีกต่อไป เบญจา แสงจันทร์ กล่าวยืนยัน พรรคประชาชนเดินหน้านิรโทษกรรมรวมมาตรา 112 เพื่อเป็นการสร้างการปรองดอง ยุติความขัดแย้ง

น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ ตัวแทนเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนกล่าวว่า ลุงนวมทอง คือสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ ขณะที่

แต่น่าเสียดายที่สภาวะตอนนี้ นักการเมืองในสภาส่วนใหญ่ไร้ความกล้าหาญในการปกป้องประชาชน ความยุติธรรมและสิทธิเสรีภาพของประชาชน ทั้งที่เป็นหน้าที่ของพวกเขาผลการลงมติเห็นชอบข้อสังเกตในรายงานของคณะกรรมาธิการนิรโทษกรรมฯ พบว่า นักการเมืองส่วนใหญ่ไม่เห็นชอบ ทั้งที่ยังไม่ใช่การออกกฎหมาย ส.ส.ในสภาก็ไม่กล้าหาญพอที่จะลงมติ กังวลไปหมดว่าถ้าลงชื่อจะเสมือนเป็นการเห็นด้วย และอาจส่งผลต่อความมั่นคงทางอาชีพ สิ่งที่เราต้องช่วยกันคือยืนยันเสียงของตัวเอง ถ้านักการเมืองไม่กล้าหาญ เราก็มีหน้าที่ต้องกดดันให้เขาแสดงความกล้าหาญออกมา

นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยกล่าวเป็นคนสุดท้ายว่า  ลุงนวมทอง พลีชีพต่อต้านการรัฐประหาร  ได้กล่าวไว้ก่อนสิ้นชีวิตว่าชาติหน้าขออย่าได้เกิดมาเจอคณะรัฐประหารอีก แต่ปรากฏว่า หลังจากนั้นมีการรัฐประหารปี 2557 อีกครั้งหนึ่ง และในปัจจุบัน ยังมีการรัฐประหารโดยใช้ตุลาการสั่งยุบพรรคประชาชนถือเป็นการรัฐประหารอีกแบบหนึ่ง รวมทั้งการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วของพรรคเพื่อไทยและการคุมขังนักโทษการเมืองคืออานนท์ นำภา โสภณ  สุรฤทธิ์ธำรง  สิรภพ ภูมิพึ่งพุทธ และนักโทษการเมืองที่ถูกคุมขังออยู่ถึง 40 คน ซึ่งเป็นคนต่อต้านรัฐประหาร การไม่นิรโทษกรรมให้พวกเขา  ไม่ล้มล้างผลพวงการรัฐประหารเท่ากับเป็นการสืบทอดอำนาจเผด็จการ  ดังนั้น หาก พรรคเพื่อไทยไม่ทำการนิรโทษกรรมให้กับคดีมาตรา 112 จะกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะทำให้ พรรคเพื่อไทยกลายเป็นพรรคการเมืองสืบทอดเผด็จการทหาร

บางส่วนของการกล่าวรำลึก  . https://fb.watch/vBLpleuDHG/

เครดิตภาพ  ไข่แมวชีส / UDD