กระบวนการยุติธรรม

เร่งไต่สวนคดี#19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ให้แล้วเสร็จธันวาคม 2567


คดี#19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร เร่งไต่สวนให้แล้วเสร็จธันวาคม 2567

( 13 พย.67) ที่ห้องพิจารณาคดี 704 ศาลอาญานัดสืบพยานในคดีมาตรา 112และ 116 จากการชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร จากการชุมนุมที่สนามหลวงเมื่อวันที่ 19 – 20 ก.ย.2563 เป็นครั้งที่ 20 คดีนี้มีจำเลยเป็นนักกิจกรรมทั้งหมด 22 ราย ถูกฟ้องด้วยข้อหาหลักตามมาตรา 112 จำนวน 7 คน ส่วนอีก 15 คน ถูกฟ้องในข้อหาหลักตามมาตรา 116 ในวันนี้จำเลยตามมาตรา 112 มาเข้าร่วมการพิจารณาคดีมีนายอานนท์ นำภา (จำเลยที่ 2)ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม (จำเลยที่ 3), นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข(จำเลยที่ 4) และ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา (จำเลยที่7)   ส่วนจำเลยในคดีตามมาตรา 116 ที่มาศาลในวันนี้รวม 7 คนด้วยกัน ส่วนอีก 8 คน เป็นการพิจารณาคดีลับหลัง

จากนั้นโจทก์แถลงขอนำพยาน พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผู้กล่าวหา เข้าตอบคำถามค้านของทนายจำเลย แต่ทนายจำเลยได้สอบถามศาลถึงพยานเอกสารสำคัญที่ได้ขอให้ศาลออกหมายเรียก ได้แก่ คําเบิกความพยานโจทก์และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีหมายเลขคดีดําที่ 197/2482 ของศาลแพ่ง ระหว่าง กระทรวงการคลัง โจทก์ กับ สมเด็จพระปกเกล้าฯ และ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี รวม 2 คน ซึ่งฝ่ายจำเลยยังไม่ได้รับโดยอานนท์ นำภา แถลงต่อไปว่า หากโจทก์รับข้อเท็จจริงได้ว่ารัชกาลที่ 7 เคยถูกฟ้องและถูกยึดวัง ทนายจำเลยก็ไม่ติดใจรอพยานเอกสารดังกล่าว แต่หากโจทก์รับข้อเท็จจริงไม่ได้ ก็ไม่สามารถสืบพยานต่อได้หากไม่มีพยานเอกสาร อย่างไรก็ตาม โจทก์แถลงว่า โจทก์ไม่สามารถรับข้อเท็จจริงตามที่ทนายจำเลยกล่าวได้ 

ในขณะที่สมยศ พฤกษาเกษมสุข แถลงว่า คดีนี้เขาโดนกล่าวหาทั้งมาตรา 116 และมาตรา 112 โดยเดิมกล่าวหามาตรา 116 อย่างเดียว ต่อมามีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในมาตรา 112 และอัยการใช้เวลาเพียง 5 วัน ในการสั่งฟ้อง เขาเห็นว่าเป็นเรื่องร้ายแรง โดยสิ่งที่เขาปราศรัย เช่น รัชกาลที่ 10 ไม่อยู่ในประเทศไทย ดังนั้น จึงขอออกหมายเรียกตารางการบินมาพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้กล่าวเท็จ 

ศาลกล่าวว่า เอกสารจากสำนักพระราชวังและการท่าอากาศยานที่ฝ่ายจำเลยขอให้ศาลออกหมายเรียกมานั้น ศาลได้วินิจฉัยเป็นที่ยุติแล้วว่าไม่ออกหมายเรียกให้ ศาลเห็นว่า โจทก์มีหน้าที่พิสูจน์เรื่องดังกล่าว ถ้าโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ศาลก็ไม่เคยตัดสินว่าเป็นความผิด

ศาลสั่งสืบพยานเท่าที่ไม่เกี่ยวข้องกับพยานเอกสารที่ยังขอมาไม่ได้ก่อนในวันที่ 14 พ.ย. 2567 โจทก์ได้นำพยาน สุรเดช อำนวยสาร ผู้อำนวยการเขตพระนคร เข้าเบิกความและตอบคำถามค้านทนายจำเลยจนเสร็จ  ส่วนพยานโจทก์ที่จะเบิกความในวันที่ 15 พ.ย. 2567 ติดราชการ ศาลจึงให้เลื่อนไปสืบพยานโจทก์ต่อในวันที่ 20 -22 พ.ย. 2567