แถลงการณ์เรียกร้องให้ 8 พรรคการเมือง “ให้โอกาสประชาชน”
ผลการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง ได้ที่นั่งอันดับหนึ่ง และรวบรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ ดังนั้น จึงมีความชอบธรรมที่สุดในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ถูกฝ่ายต่างๆ ร่วมกันสกัดกั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกวุฒิสภาแต่งตั้ง ที่รัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจเผด็จการ เปิดโอกาสให้ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเลือกนายกรัฐมนตรี
การกระทำดังกล่าวนี้ แสดงถึงเจตนาที่โจ่งแจ้งในการไม่ยอมรับอำนาจของประชาชนที่ผ่านการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และฉุดรั้งการเมืองไทยให้การเมืองไทยอยู่ในวังวนเดิมต่อไป
ล่าสุด มีความพยายามให้พันธมิตร 8 พรรคการเมืองแตกแยกกันเอง และสลายขั้วพันธมิตร ไปรวมกับพรรคการเมืองที่เป็นส่วนหนึ่งในการสืบทอดอำนาจเผด็จการ ซึ่งไม่เพียงเป็นการทำให้พรรคการเมืองเหล่านี้ ทรยศต่อคำมั่นสัญญาที่ให้กับประชาชนในช่วงเลือกตั้ง แต่ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อพรรคการเมืองและระบอบประชาธิปไตยไปพร้อมกันด้วย
พวกเรา อาจารย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ดังมีรายชื่อข้างล่าง ต้องการเห็นการเมืองไทยกลับสู่ครรลองประชาธิปไตยอีกครั้ง จึงขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองทั้ง 8 พรรค ผนึกกำลังกันอย่างเหนียวแน่นตามที่ประกาศไว้ต่อไป ในฐานะที่การผนึกกำลังดังกล่าวนั้นเป็นการ “ให้โอกาสประชาชน” ใน 2 ประการ คือ
1. ให้โอกาสประชาชนผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้แสดงพลังในการกดดัน ส.ว. และองคาพยพที่เกี่ยวข้อง ให้เคารพเสียงประชาชน ลงคะแนนตามเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร
ขณะที่ประชาชนกำลังเริ่มต้นจัดตั้ง ใช้ “สันติวิธี” อย่างหลากหลาย รวมตัวแสดงพลังในการกดดัน ส.ว. ตามวิถีทางประชาธิปไตย พรรคการเมืองทั้ง 8 พรรคต้องร่วมมือกับประชาชน มิใช่สร้างแรงกดดันกันเอง และควรตระหนักว่า การจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วเป็นการตัดตอน ตัดโอกาสประชาชนในการต่อสู้เพื่อยืนยันเจตจำนงของตนเอง
2. ให้โอกาสประชาชนได้ร่วมกับพรรคการเมืองผลักดันการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยให้ออกจากระบอบอำนาจนิยม
ชัยชนะของพันธมิตรพรรคฝ่ายค้านเหนือฝ่ายรัฐบาลเดิมด้วยคะแนนกว่า 26 ล้านเสียง ครองที่นั่งกว่าครึ่งในสภาผู้แทนราษฎร 312 ที่นั่ง ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญในรอบ 17 ปีหลังการรัฐประหาร 2549 ที่จะนำการเมืองไทยออกจากระบอบอำนาจนิยมที่มีการเลือกตั้ง ที่การเลือกตั้งและสถาบันการเมืองแบบประชาธิปไตยถูกสร้างขึ้น “พอเป็นพิธี” ไม่ได้ทำหน้าที่สะท้อนเสียงที่แท้จริงของประชาชนและกำหนดอนาคตของประเทศ แต่เพียงเพื่อสืบทอดระบอบอำนาจนิยมเท่านั้น
การตั้งรัฐบาลข้ามขั้วเป็นการปกป้องและสืบทอดระบอบที่ฉ้อฉลนี้ต่อไป ปิดโอกาสของประชาชนและสังคมไทยในการผลักดันการปฏิรูปการเมืองไทยครั้งใหญ่ที่จะนำพาการเมืองไทยสู่วิถีทางประชาธิปไตย
โปรดให้โอกาสและร่วมมือกับประชาชนที่ได้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ด้วยความอดทนอดกลั้น ครุ่นคิด และให้เวลาสำหรับทุกฝ่ายในการผลักดันภารกิจที่สำคัญในทางประวัติศาสตร์นี้ร่วมกันต่อไป
ด้วยความสมานฉันท์
อุเชนทร์ เชียงเสน
สุรัช คมพจน์
จิรวัฒน์ แสงทอง
วิทยา อาภรณ์
มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

