
คนงานเดินขบวนร้องรมต.แรงงานขอเงินค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน
21.12.66 เวลา 10.00 น. คนงานบริษัทแอลฟ่า เอเอ็มซีและบอดี้แฟชั่นกว่า 300 คน นำโดยเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน เดินขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เรียกร้องให้กระทรวงแรงงานอนุมัติเงินกองทุนสงเคราะห์หรือเงินอื่นใดในอัตราเท่ากับค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน แต่พอเดินทางมาถึงหน้ากระทรวงแรงงานปรากฏว่า มีการปิดประตูทางเข้ากระทรวงแรงงาน ทำให้คนงานต้องชุมนุมกันอยู่หน้าประตู ระหว่างนี้นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานมาเจรจาขอให้ตัวแทนคนงานเข้าไปเจรจาภายในกระทรวงแรงงานแต่แกนนำขอให้เข้าทั้งหมด
นภาพร พาลีชีพ ตัวแทนบอดี้แฟชั่นนครสวรรค์ กล่าวว่า บริษัทบอดี้แฟชั่น ผู้ผลิตชุดชั้นในชื่อดังของโลกคือ Victoria’s Secret, Triumph, Sloggi, HOM, Marks & Spencer, Valisere, Huber เลิกจ้าง ไม่จ่ายค่าชดเชยคนงาน 1,174 คน รวมเป็นจำนวนเงินขั้นต่ำ 101,941,799.45 บาท บริษัทแอลฟ่า สปินนิ่งเลิกจ้าง 132 คนไม่จ่ายค่าชดเชย 19,338,087.91 บาท และบริษัทเอเอ็มซีเลิกจ้าง 153 คนไม่จ่ายเงินค่าชดเชย 18,479,206 บาท
จุฑาทิพย์ วันชัย ตัวแทนคนงานเอเอ็มซี กล่าวว่า เมื่อกระทรวงแรงงานบังคับใช้กฎหมายแรงงานไม่ได้ในกรณีนายจ้างปิดกิจการต้องจ่ายเงินค่าชดเชย กระทรวงแรงงานจึงต้องรับผิดชอบในการหาเงินมาเยียวยาคนงานเดือดร้อนในอัตราค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน ไม่ใช่ปล่อยให้นายทุนคดโกงแรงงานแล้วเป็นภาระให้ลูกจ้างไปดำเนินคดี สิ่งที่คนงานเรียกร้องเพียงแค่ขอให้กระทรวงแรงงานบังคับคดีให้เป็นไปตารมกฎหมาย
ธนพร วิจันทร์ แกนนำเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ได้ปราศรัย ว่า ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานในการแก้ไขระเบียบกองทุนสงเคราะห์ให้สามารถจ่ายเพิ่มมากขึ้นตามสิทธิของกฎหมาย หรือการขอใช้งบกลางของรัฐบาล ดังเช่นที่ได้ใช้งบกลางช่วยเหลือแรงงานไทยที่กลับจากอิสรเอลคนละ 50000บาท เป็นจำนวนเงิน 750 ล้านบาท ทั้งนี้ขอให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2566
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจที่รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานปิดประตูไม่รับฟังปัญหาของผู้ใช้แรงงาน เป็นการบกพร่องต่อหน้าที่ เมื่อแก้ปัญหาแรงงานไม่ได้ก็ไม่ควรเป็นรัฐมนตรี ซึ่งกลุ่มคนงานจะได้ร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ที่พรรคเพื่อไทย ว่าเมื่อรัฐมนตรีไม่ตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลเช่นนี้ก็สมควรปรับครม.กันต่อไป
ทางด้านนายอารี ไกรนรา ได้ทำบันทึกการเจรจาแจ้งว่า จะจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ให้มีการพิจารณาในเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดและจะนำเสนอครม.ให้พิจารณาเพื่อขอความช่วยเหลือในงบกลาง กันต่อไป แต่ฝ่ายลูกจ้างยืนยันเรียกร้องให้ได้เต็มตามสิทธิกฎหมายแรงงาน
รายข่าวล่าสุด คนงานตัดสินใจปักหลักค้างคืนที่หน้ากระทรวงแรงงานจำนวน 60 คน และจะหมุนเวียนมาชุมนุม ทั้งนี้เมื่อเวลา 20.00 น.นายสุเทพ อู่อ้น และเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลเดินทางมาให้กำลังใจผู้ชุมนุมโดยกล่าวว่า กระทรวงแรงงานควรรับฟังคำร้องทุกข์ของคนงาน ไม่ใช่ปิดประตูแบบนี้ ทางสส.ก้าวไกลจะได้หารือในกรรมาธิการแรงงานจะได้ช่วยเหลือลูกจ้างต่อไป
——————————————————————-
แถลงการณ์ กระทรวงแรงงานต้องรับผิดชอบต่อการบังคับใช้กฎหมายแรงงานจ่ายเงินสงเคราะห์ในอันตราเท่ากับค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน
เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน คนงานแอลฟ่าสปินนิ่ง เอเอ็มซี สปินนิ่ง บอดี้แฟชั่น
รัฐบาลเศรษฐาไปเชื้อเชิญให้ต่างชาติมาลงทุน ให้สิทธิพิเศษยกเว้นภาษีต่างๆมากมาย หลังจากโกยกำไรไปมากแล้ว บรรษัทข้ามชาติเหล่านี้ปิดโรงงาน เลิกจ้างคนงาน ไม่จ่ายเงินค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน โดยที่กระทรวงแรงงานปล่อยปละละเลยในการบังคับใช้กฎหมายแรงงาน ปล่อยนายจ้างทำผิดกฎหมายให้ลอยนวล ส่วนคนงานต้องทุกยากเดือดร้อนแสนสาหัส ตกงาน ครอบครัวแตกสลาย มีหนี้สินล้นพ้นตัว โดยที่กระทรวงแรงงานมีกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง แต่ไม่ยอมจ่ายให้คนงานตามสิทธิของกฎหมายแรงงาน คนงานร้องเรียนต่อรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานนายพิพัฒน์ รัชกิจประการแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า
ในส่วนของบริษัทบอดี้แฟชั่น ผู้ผลิตชุดชั้นในชื่อดังของโลกคือ Victoria’s Secret Triumph, Sloggi, HOM, Marks & Spencer, Valisere, Huber เลิกจ้าง ไม่จ่ายค่าชดเชยคนงาน 1,174 คน รวมเป็นจำนวนเงินขั้นต่ำ 101,941,799.45 บาท บริษัทแอลฟ่า สปินนิ่งเลิกจ้าง 132 คนไม่จ่ายค่าชดเชย 19,338,087.91 บาท และบริษัทเอเอ็มซีเลิกจ้าง 153 คนไม่จ่ายเงินค่าชดเชย 18,479,206 บาท
การที่รัฐบาลบกพร่องต่อการบังคับใช้กฎหมาย ทำให้นายทุนเอารัดเอาเปรียบคนงานทั้งในด้านการจ่ายค่าจ้างต่ำ ทำงานยาวนานชั่วโมง จนกระทั่งปิดกิจการ นำกำไร-ความมั่งคั่งหนีออกไป คนงานจึงตกงาน ได้รับความเดือดร้อน เป็นความเสียหายและเป็นภัยพิบัติจากความไม่รับผิดชอบของกระทรวงแรงงาน รัฐบาลจึงต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการอนุมัติเงินกองทุนสงเคราะห์ หรือเงินอื่นใด ในการเยียวยาคนงานที่เดือดร้อน ดังเช่น การใช้งบกลาง 750 ล้าน จ่ายให้คนงานไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอล
การที่กระทรวงแรงงานปล่อยปละละเลยต่อการบังคับใช้กฎหมายแรงงานและการไม่อนุมัติเงินช่วยเหลือลูกจ้างตามสิทธิกฎหมายแรงงาน เป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ปกป้องสิทธิประโยชน์ของประชาชน สร้างความเสียหายเดือดร้อนให้กับประชาชน
เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน คนงานบอดี้แฟชั่น เอเอ็ม ซี และแอลฟ่า ขอเรียกร้อง 1.นายทุนข้ามชาติ เจ้าของสินค้าแบลนด์เนม ผู้ผลิต ในห่วงโซ่การผลิตทุกระดับชั้น ให้มีความรับผิดชอบทางศีลธรรมในการจ่ายเงินค่าชดเชยให้กับลูกจ้าง 2. กระทรวงแรงงานดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาต่อนายจ้างต่างชาติที่คดโกงเงินค่าจ้างและค่าชดเชยโดยทันที และให้ถือเป็นอาชญากรทางเศรษฐกิจ 3. กระทรวงแรงงานต้องอนุมัติเงินกองทุนสงเคราะห์หรือเงินอื่นใด รวมทั้งงบกลาง ในการเยียวยา ช่วยเหลือลูกจ้าง
เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชนและคนงานทั้งสามบริษัทขอให้สื่อมวลชนและประชาชนเป็นปากเสียงร่วมกันเรียกร้องต่อรัฐบาลเศรษฐาและกระทรวงแรงงาน ซึ่งมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ให้เยียวยาความเดือดร้อนของคนงานทั้งสามบริษัทเป็นการเร่งด่วน
เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน 21.12.66











