ข่าว

กลุ่มคนไทยเพื่อปาเลสไตน์ประณามอิสราเอลส่งคนงานไทยไปเสี่ยงภัยสงครามจนเสียชีวิต


กลุ่มคนไทยเพื่อปาเลสไตน์ประณามอิสราเอลส่งคนงานไทยไปเสี่ยงภัยสงครามจนเสียชีวิต

31 ตุลาคม 2567  กระทรวงการต่างประเทศรายงานข่าว 4 คนงานไทยในอิสราเอล เสียชีวิตจากจรวดโจมตีจากฝั่งเลบานอน ไปยังเมืองเมตูลา ทางเหนือของอิสราเอลติดชายแดนเลบานอนเนื่องจากพื้นที่ที่แรงงานไทยเสียชีวิตนั้น เป็นพื้นที่ที่ทางการอิสราเอลประกาศเป็นพื้นที่ทางทหาร แต่ยังนำแรงงานเข้าไปทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัยสงคราม

โดยมีรายชื่อผู้เสียชีวิต ดังนี้1.นายอรรคพล วรรณไสย มีภูมิลำเภาอยู่ที่ จ.อุดรธานี 2. นายประหยัด พิลาศรัมย์ มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ 3. นายธนา ติจันทึก มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.นครราชสีมา 4. นายกวีศักดิ์ ปาปะนัง มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.นครราชสีมาจนนำมาสู่การสูญเสีย

กรณีนี้ ปรากฏว่า องค์กรรณรงค์ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับปาเลสไตน์ประจำประเทศไทย (PSC Thailand) ไทยฟอร์ปาเลสไตน์ (Thai for Palestine) และเชียงใหม่เพื่อปาเลสไตน์ (Chiangmai for Palestine) ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ประณามรัฐบาลอิสราเอล ที่ได้ทำให้ชีวิตของแรงงานข้ามชาติ ตกอยู่ในอันตรายในเขตสงครามอีกครั้ง และขอเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงแรงงานของไทยรับประกันความปลอดภัยของแรงงานไทยทุกคน และยุติข้อตกลง ในการส่งแรงงานไทยไปทำงานในอิสราเอลโดยทันที 

แถลงข่าว: แรงงานไทยในอิสราเอลเสียชีวิต 4 ราย ที่เขตพรมแดนอิสราเอล-เลบานอน

กรุงเทพฯ (4 พฤศจิกายน 2567) – องค์กรรณรงค์ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับปาเลสไตน์ประจำประเทศไทย (PSC Thailand) ไทยฟอร์ปาเลสไตน์ (Thai for Palestine) และเชียงใหม่เพื่อปาเลสไตน์ (Chiangmai for Palestine)  ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของแรงงานชาวไทยทั้งสี่รายที่เสียชีวิตจากการโจมตีด้วยจรวดที่เมืองเมทูลา ในช่วงเช้าของวันที่  31 ตุลาคม 2567 และขอประณามรัฐบาลอิสราเอล ที่ได้ทำให้ชีวิตของแรงงานข้ามชาติ ตกอยู่ในอันตรายในเขตสงครามอีกครั้ง

สื่ออิสราเอลได้รายงานว่า แรงงานทั้งสี่คนและนายจ้างของพวกเขา ได้ทำงานอยู่ในสวนแอปเปิ้ล ใกล้ชายแดน อิสราเอล-เลบานอน ซึ่งมีการยิงจรวดอย่างต่อเนื่องจากทั้งสองฝ่ายเป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์แล้ว

เราขอไว้อาลัยต่อการเสียชีวิตของนายอรรคพล วรรณไสย, นายประหยัด พิลาศรัมย์, นายธนา ติจันทึก, และนายกาวีศักดิ์ ปาปะนัง และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเพื่อนและครอบครัวของพวกเขา เราต้องขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำของรัฐบาล กองทัพ และนายจ้างอิสราเอล ที่ทำให้ชีวิตของแรงงานชาวไทยตกอยู่ในอันตราย โดยบังคับให้พวกเขาใช้ชีวิตและทำงานในเขตความขัดแย้ง แรงงานข้ามชาติกลุ่มนี้กลายเป็นเสมือนโล่มนุษย์สำหรับกองทัพอิสราเอล ประเทศไทยในฐานะสมาชิกใหม่ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ จะต้องยกระดับบทบาทความเป็นผู้นำและต่อต้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างไม่หยุดยั้งของอิสราเอล ทั้งต่อชาวปาเลสไตน์และชาวไทย

มนุษย์ทุกคนทุกคนควรมีสิทธิในการทำงานภายใต้สภาพการทำงานที่เสรีและเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ ไม่ควรมีใครต้องเสี่ยงชีวิตทุกวันเพียงเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว องค์กร Human Rights Watch และองค์กร NGO ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติอื่นๆ ได้รายงานว่า แรงงานชาวไทย แม้จะเป็นกลุ่มแรงงานหลักในภาคเกษตรกรรมของอิสราเอล แต่กลับถูกนายจ้างชาวอิสราเอลละเมิดสิทธิและบังคับใช้งานในสภาพแวดล้อมที่คล้ายกับ “ทาส” อีกทั้งยังถูกนำไปทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัยและเขตความขัดแย้ง ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งแรงงานชาวอิสราเอลเองหลีกเลี่ยงที่จะทำงานในเขตดังกล่าว

องค์กรรณรงค์ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับปาเลสไตน์ประจำประเทศไทย ไทยฟอร์ปาเลสไตน์ และเชียงใหม่เพื่อปาเลสไตน์  ขอเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงแรงงานของไทยรับประกันความปลอดภัยของแรงงานไทยทุกคน และยุติข้อตกลง ในการส่งแรงงานไทยไปทำงานในอิสราเอลโดยทันที 

ในฐานะสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ ประเทศไทยมีพันธะ ที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศ และเรียกร้องให้อิสราเอลปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอิสราเอลได้ทำการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง  และปฏิเสธที่จะทำข้อตกลงกับผู้เจรจาชาวปาเลสไตน์เพื่อคืนตัวคนไทยที่ถูกกักขังในกาซา รัฐบาลไทยก็ยังคงรักษาความสัมพันธ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ การทหาร วัฒนธรรม และการศึกษา กับรัฐบาลอิสราเอลสายขวาจัดโดยไม่มีข้อจำกัด

กลุ่ม PSCT, ไทยฟอร์ปาเลสไตน์, และ เชียงใหม่เพื่อปาเลสไตน์ ขอร่วมเรียกร้อง ให้รัฐบาลไทยออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ในการประณามการกระทำของอิสราเอล ที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ซ้ำแล้วซ้ำอีก และขอเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรรัฐบาลอิสราเอลด้วย

นอกจากนี้ เราขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีของไทยกดดันอิสราเอลอย่างถึงที่สุดเพื่อยุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา ซึ่งได้พรากชีวิตของชาวปาเลสไตน์ไปกว่า 100,000 คน และบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่นำไปสู่การปล่อยตัวคนไทยที่ถูกกักขัง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม การสัมภาษณ์ หรือคำแถลงจากกลุ่ม PSCT กรุณาติดต่อที่อีเมล palestinesolidaritythailand@gmail.com

ภาพจากเพจ Thai for Palestine