11-12 ธค.67 เปิดสภาตามหานิรโทษกรรม 112
11 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 -21.00 น.กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย กลุ่มโมกหลวง สหภาพคนทำงาน กลุ่มสังคมนิยมแรงงาน ชุมนุมที่หน้าลานประชาชน สภาผู้แทนราษฎร มีผู้เข้าร่วมการชุมนุมกว่า 200 คน โดยในเวลา 16.30 น. นายเจษฎา ศรีปลั่ง แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชิปไตย ได้นำเครื่องเสียงและเวทีมาติดตั้งบริเวณที่จอดรถหน้าประตูทางเข้าสภาผู้แทนราษฎร แต่ตำรวจนำแผงเหล็กมาปิดกั้น อ้างว่าการชุมนุมอยู่ไกล้พระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่10และประตูทางเข้า จึงไม่อนุญาต ทางกลุ่มผู้จัดการชุมนุมจึงย้ายที่ชุมนุมมาหน้าลานประชาชน ทำให้เวลาล่วงเลยไปกว่าที่กำหนดไว้
รายการแรกเป็นการเสวนาเรื่องนิรโทษกรรมกับอนาคตเยาวชนไทยมี ธารารัตน์ วิดารา (น้ำ)กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์ กล่าวว่าเยาวชนตื่นตัวการเมืองในปี 2563 จึงให้ความสนใจต่อปัญหาสังคมไทย อยากส่งเสียงเรียกร้องไปยังผู้มีอำนาจให้นิรโทษกรรมรวม 112 ด้วย และต้องมีการแก้ไขมาตรา 112 เพื่อให้คนไทยมีเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น ส่วน อิสริยะ ไชยมนตรี (นิว) กลุ่มไฟลามทุ่ง กล่าวว่า มาตรา 112 เป็นเครื่องมือรัฐเผด็จการที่ใช้ในการปราบปรามประชาชน จึงมีการดำเนินคดีกับผู้ที่มีความเห็นแตกต่าง ในปี 2563 อานนท์ นำภาและคณะราฎรได้ออกมาต่อสู้เรียกร้องการปกิรูปสถาบันกษัตริย์ ทำให้สังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก ประชาชนมีส่วนร่วมการเมือง ดังนั้นรัฐบาลควรที่จะนิรโทษกรรมรวม 112 ด้วย ไม่ควรแบ่งแยกกีดกันหรือทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ จากโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) เริ่มต้นพูดคุยว่านิรโทษกรรมทุกคดี ที่ผ่านมาการนิรโทษกรรมกว่า 20 ครั้งไม่มีการแยกข้อหาว่าจะนิรโทษกรรมหรือไม่นิรโทษกรรม สำหรับพรรคเพื่อไทย รู้มาตั้งนานแล้วว่านิรโทษกรรมจะไม่รวมมาตรา 112 ในปี 2556 นิรโทษกรรมเหมาเข่งก็ไม่รวมมาตรา 112 และคิดว่าร่างกฎหมายนิรโทษกรรมจะไม่เข้าสภาในเร็วๆนี้
เพชรรัตน์ ศักดิ์ศิริเวทย์กุล จากแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยกล่าวว่า นานาชาติมีความเห็นจว่า มาตรา112ขัดต่อ เสรีภาพการพูด ถูกนำมาใช้อย่างผิดหลักการ นานาชาติจึงเห็นว่าควรจะต้องแก้ไขมาตรา 112 นิรโทษกรรมคือทางออกหนึ่งในการยุติความขัดแย้ง
อนุสรณ์ อุณโณ อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เห็นว่า นิรโทษกรรมส่วนใหญ่ใช้กับคณะรัฐประหาร เพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการและใช้เป็นเครื่องมือขจัดฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองจากการไม่ให้รวมมาตรา 112 เป็นการปราบปรามประชาชน
เทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา (สว.)เห็นว่า เช่นเดียวกับพรบ.ประชามติที่วุฒิสภาจะไม่เห็นชอบในการนิรโทษกรรมรวมมาตรา 112 การที่ประชาชนเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เกิดขึ้นจาก ประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้รัฐบบาลเผด้๗การหลุดพ้นจากอำนาจดดยเร็วแต่มี “ข้อสังเกตพระราชทาน” นำสู่การแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญทั้งหมดเจ็ดมาตราที่ต่างออกไปจากรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านการลงประชามติโดยประชาชนมาแล้ว รวมทั้งการออกกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์ รวมทั้งรายงานข่าวตรงกันว่า มาตรา 112 ไม่ถูกดำเนินคดีเพราะทรงมีเมตตาทรงพระมหากรุณาธิคุณได้กำชับมากับผมโดยตรง’ แต่ต่อมา เมื่อมีการชุมนุมขับไล่รัฐบาลประยุทธ์ จึงมีการประกาศใช้มาตรา 112 เป็นการใช้ความกลัว จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สภาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคประชาชน กล่าวว่า ตามวาระการประชุมสภา วันที่ 18 ธันวาคม 2567 ต้องมีการประชุมพิจารณาร่างพรบ.นิรโทษกรรมแล้ว แต่อาจมีการเลื่อนออกไป เอากฎหมายอื่นเข้ามาพิรณาแทน
ในเวลา 20.00 น. เป็นการร้องเพลงแองเตอร์นาซิอองนาน โดยกลุ่มสังคมนิยมแรงงานและจุดพลุอ่านแถลงการณ์ของกลุ่ม โดยมีนายสมยศ พฤกษาเกษมสุขกล่าวการปราศรัยปิดท้ายเป็นการยุติการการชุมนุม โดยมีมวลชนปักหลักค้างคืน เพื่อแจกจดหมายเปิดผนึกถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในตอนเช้าวันที่ 12 ธันวาคม 2567
เครดดิตรูปภาพ : ไข่แมวชีส
แถลงการณ์สภาผู้แทนราษฎรต้องผ่านความเห็นชอบร่างพรบ.นิรโทษกรรมรวมมาตรา 112
รัฐประหารปี 2549/2557 ทำลายประชาธิปไตย ทำให้ประชาชนทุกข์ยากเดือดร้อนแสนสาหัส ประชาชนจึงต่อต้านการรัฐประหารมาอย่างต่อเนื่องให้ได้มาซึ่งความเป็นธรรม สิทธิเสรีภาพ ประชาธิปไตย โดยรัฐบาลเผด็จการที่ผ่านมาใช้มาตรา 112 เป็นเครื่องมือในการปิดกั้นเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและการปราบปรามประชาชนมีผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 จำนวน 276 คน ใน 308 คดี และดำเนินคดีอื่นๆกว่า1700 คน
อานนท์ นำภาและนักโทษการเมืองที่ถูกคุมขังในขณะนี้คือประชาชนที่ต่อต้านการรัฐประหาร จนนำมาซึ่งการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2562และ 2566 เป็นผู้สร้างคุณูปการต่อประชาธิปไตยและความเป็นธรรมมาโดยตลอด ทำให้มีรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งในขณะนี้
การปล่อยให้ประชาชนที่ใฝ่หาประชาธิปไตย ได้ร่วมกันต่อต้านการรัฐประหาร ต้องถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรมรัฐบาลจากเผด็จการที่ผ่านมา ย่อมเป็นการแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไม่จริงใจต่อการพัฒนาประชาธิปไตย การนิรโทษกรรมที่เป็นการยกเว้นมาตรา 112 เท่ากับเป็นการสืบทอดอำนาจเผด็จการ เป็นการออกกฎหมายนิรโทษกรรมที่เลือกปฏิบัติ ไม่อาจยุติความขัดแย้งในสังคมที่ยืดเยื้อยาวนานกว่า 20 ปี
ดังนั้นรัฐบาลแพทองธาร จึงต้องนิรโทษกรรมประชาชนรวมมาตรา 112 เพื่อคืนความยุติธรรม สร้างหลักประกันในสิทธิประชาธิปไตยและยุติความขัดแย้งในสังคม
พวกเราขอเรียกร้องต่อประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตยและความเป็นธรรมในสังคม ผนึกกำลังกันต่อสู้เรียกร้องต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ผ่านความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนที่รวมมาตรา 112 อันเป็นการคืนความยุติธรรม ยุติความขัดแย้งในสังคม สร้างความปรองดองและสันติสุขในสังคมเพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศไทยต่อไป
กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย สหภาพคนทำงาน กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ กลุ่มสังคมนิยมแรงงาน







