
แก็งคอลเซ็นเตอร์มิใช่ที่อื่นไกลตั้งอยู่แถวริมคลองหลอดนี่เอง
รู้กันมานานแล้ว คนไทยเกือบทุกคนโดนหลอกหลวงจากพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์กว่า 700 คดีต่อวัน ความเสียหาย 450,000 ล้านบาทต่อปี ตำรวจติดตามจับพวกแก็งคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้ คนไทยที่ถูกหลอกลวงสิ้นเนื้อประดาตัว ถึงกับฆ่าตัวตายก็มีจำนวนมาก กระทบความมั่นคงของประเทศชาติแสนสาหัส แต่ไม่ปรากฏมีมาตรการใดๆที่ชัดเจนในการจัดการกับพวกอาชญากรเศรษฐกิจเหล่านี้ จนกระทั่งรมช.ความมั่นคงจีนนายหลิว จงอี้ มาตรวจชายแดนจ.ตากและแนะนำให้ตัดไฟฟ้าจากประเทศไทยนั่นแหละ กลายเป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างยิ่ง กระทั่งฝ่ายค้านอย่างรังสิมันต์ โรมออกมาแฉว่า การไฟฟ้าภูมิภาคขายไฟฟ้าให้กับฝั่งพม่าและนำไปใช้กับเมืองสแกมเมอร์ “ชเวโก๊กโก” รัฐมนตรีมหาดไทยนายอนุทิน ชาญวีรกุล ออกมาแถลงตอบโต้ว่า ขายไฟฟ้าให้พม่า ไม่ได้ขายให้พวกแก็งคอลเซ็นเตอร์ เป็นเรื่องของพม่าจัดการ เพราะกระทรวงมหาดไทยไม่ใช่มหาดพม่า เมื่อถูกกดดันในเรื่องนี้มากขึ้นก็ออกมาแถอีกว่า ให้รัฐบาลออกคำสั่งมาก่อน แต่แล้วก็โดนเปิดโปงอีกว่าเคยมีคำสั่งจากครม.รัฐบาลเศรษฐามาก่อน “มติ ครม.รัฐบาลเศรษฐาเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2567ให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการประปาส่วนภูมิภาค) เร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการระงับการให้บริการสาธารณูปโภคข้ามพรมแดน “
ขณะที่การไฟฟ้าภูมิภาคแถลงว่า ขายไฟฟ้าให้ฝั่งพม่ารายได้แค่ 0.12% ไม่กระทบรายได้กฟภ.แน่นอน… ซึ่งหากหน่วยงานด้านความมั่นคงพิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องงดการจำหน่ายไฟฟ้า PEA เองก็พร้อมที่จะงดจ่ายไฟฟ้าทุกจุดทันทีโดยไม่ต้องรอทางฝั่งรัฐบาลเมียนมา(29.1.68 ประชาชาติธุรกิจ)
30 มกราคม 2568 ทักษิณ ชินวัตร กล่าวยืนยันว่าสัญญาสามารถยกเลิกได้ ถ้าสัญญานั้นนำไปใช้ในสิ่งไม่ถูกต้อง เรื่องจัดการกับแก็งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ฝั่งพม่าต้องตัดไฟฟ้า และสื่อสาร ต้องทำทั้งคู่
เรื่องการตัดสาธารณูปโภค เพื่อปราบปรามแก็งคอลเซ็นเตอร์ในแนวตะเข็บชายแดนจึงอยู่ในความรับผิดชอบของรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกุล ซึ่งดูเหมือนว่า จะโยกโย้ เตะถ่วง ด้วยการโยนกลองไปมาในเรื่องการตัดไฟฟ้าที่เข้าไปยัง เมืองสแกมมเมอร์ ฝั่งพม่า ทำให้แก็งคอลเซ็นเตอร์ยังคงหลอกลวงก่ออาชญากรรมทางเศรษฐกิจให้กับคนไทยได้เต็มที่
ขณะที่ คำสั่งของ ครม.ยุคเศรษฐา เรื่องให้ตัดสาธารณูปโภค ไฟฟ้าและการสื่อสารที่ส่งให้รัฐบาลพม่าและถูกส่งต่อไปยังเมืองสแกมเมอร์จนมาถึงรัฐบาลแพทองธารในขณะนี้ โดยที่รัฐมนตรีมหาดไทยนายอนุทิน ชาญวีรกุล ทำได้เพียงการเล่นลิ้นตอบโต้ กระทั่งอ้างถึงการเป็นรัฐบาลผสมที่ต้องทำงานแบบโยนกลองกันไปมาแบบที่เห็น ทำให้นายรังสิมันต์ โรม พรรคประชาชน ตั้งข้อสังเกตุว่า รัฐไทยเองจะเกี่ยวข้องกับพวกแก็งคอลเซ็นเตอร์ด้วยหรือไม่? ถึงได้ปล่อยปละละเลยในเรื่องนี้อย่างชัดเจนที่สุด
นักการเมืองที่มีแต่ขี้กับใส้จึงแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเศรษฐกิจไม่ได้ บรรดาทุนจีนสีเทาจึงใช้ทุนไทยสีเทาที่เป็นนักการเมืองและข้าราชการประเภทคดในข้อ งอในกระดูก สมคบคิดกันกับแก็งคอลเซ็นเตอร์ปล้นบ้านกินเมือง มาตรการปราบปรามประการใดของรัฐบาลในเรื่องนี้นี้มีค่าเท่ากับการโกหกหลอกลวงเหมือนกับพวกแก็งคอลเซ็นเตอร์
สมยศ พฤกษาเกษมสุข 1.2.68

เครดิตรูปภาพ ไทยรัฐ
