
วันแรงงานสากล “จากห้องขัง…..ถึงท้องถนน”
เก็ท โสภณ ถึงเพื่อน “นักสหภาพแรงงาน”
บันทึกเยี่ยมเก็ทจากทนายวันที่ 28 เมษายน 2567
1 พฤษภาคม พ.ศ. 2429 ได้มีกรรมกรรวมกันชุมนุมประท้วงต่อต้านการขับขี่ที่เมืองชิคาโกในประเด็นที่เจ้านายกดขี่ลูกจ้างให้ทำงานวันละ 14 ถึง 16 ชั่วโมงต่อวันประท้วงนั้นเกิดการประทะกัน มีการเสียเลือดเนื้อของประชาชนที่ประชุมแต่ผลสัมฤทธิ์ที่ได้คือมาตรฐานเวลาให้แรงงานทำงานได้ไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมงต่อวัน เป็นมาตรฐานที่ใช้กันเป็นสากลในปัจจุบันคนทั่วโลกขนาดนามวันนั้นว่าวัน May Day.
ในเวลาต่อมานิยามของคำว่าแรงงานก็ได้เปลี่ยนไปโดยไม่ได้หมายรวมถึงกรรมกรหรือถูกใช้เป็นคำแบ่งแยกชนชั้นเท่านั้น แต่คำว่าแรงงานหมายถึงคนทำงานทุกคน คุณจะใช้แรงกาย แรงความคิด ทำงานกลางแจ้งหรือในร่มทุกคนล้วนเป็นแรงงาน
.
ผ่านมา 141 ปี เกิดการต่อสู้ของขบวนการแรงงานขึ้นทั่วโลก ทำให้คนทำงานได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานได้มากขึ้น ตัวอย่างการต่อสู้ที่ผ่านมา เช่นการต่อต้านการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุของเพศ การต่อต้านอคติทางเชื้อชาติ การมีวันลาหยุดให้ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ การมีหลักประกันสวัสดิภาพของแรงงานและค่าแรงขั้นต่ำเป็นต้น แต่กว่าจะสัมฤทธิ์ผลประชาชนก็ต้องเสียอะไรไปมาก
.
ในการเรียกร้องแต่ละครั้งมีทั้งการล้อมปราบ จับกุม คุมขังทำร้าย บางครั้งถึงขั้นทำให้คนเสียชีวิต แม้ผู้ที่เรียกร้องจะถูกกดขี่มากมาย แต่อภิสิทธิ์ชนก็ไม่อาจ บิดเบือนความจริงที่ว่าคนทำงานก็มีหัวใจ คนทำงานก็มีชีวิต ประชาชนทุกคนล้วนมีศักดิ์ศรีในฐานะมนุษย์ แม้ผู้ที่เรียกร้องอาจถูกปิดปาก แต่หากประเด็นที่เขาขับเคลื่อนนั้น ถูกพิสูจน์ความสมเหตุสมผลแล้วความชอบธรรมโดยสาธารณะชนจากประเด็นก็จะถูกพัฒนาไปเป็นอุดมการให้ผู้คนได้เรียกร้องกันต่อไป
.
สำหรับ May Day ปีนี้ก็จริงอยู่ที่ประชาชนเสียหายกันไปมากข้อเรียกร้องของเราหลายข้อยังไม่สำเร็จ แต่ในเมื่อมีคนจำนวนมากต่อสู้ปูทางมาให้เราแล้วยังมีคนจำนวนมากอีกเช่นกันที่ยังคงร่วมเดินทางไปกับเรา อุดมการและความฝันก็ยังยังคงเบ่งบานต่อไป ปีนี้ก็เป็นอีกปีที่ผมไม่ได้ไปร่วมเดินขบวนวันแรงงานแต่ก็ขอให้เพื่อนในสหภาพคนทำงานได้รำลึกทบทวนถึงการต่อสู้และผลักดันสานต่ออุดมการที่เรามีร่วมกันต่อไปขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนที่ทำงานทุกคน
.
(จากบันทึกเยี่ยมของคุณพ่อเก็ท) เก็ท โสภณ 1 พ.ค. 2568
1 พ.ค.68 วันนี้ ” วันนี้เป็นวันแรงงานสากล ขอใช้โอกาสนี้ เปิดศักราชของ
“มหการเมือง” กล่าวคือ การเมืองที่องค์ประธานคือประชาชนทุกคน การเมืองที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง การเมืองที่จะไม่ผลักไสใครให้เป็นคนชายขอบ ไม่ว่าจะมีวุฒิการศึกษาใด อาชีพใด ทุกคนล้วนเป็นกำลังสำคัญของการเคลื่อนไหวทางการเมือง เราได้เห็นแล้วว่ากระบวนการรัฐสภาถูกแทรกแซงโดยอภิสิทธิชนและองคาพยพของพวกเขา ดังนั้นในฐานะประชาชนที่เป็นกำลังสำคัญของชาติ เราต้องทำให้การเคลื่อนไหวเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ใช่เพียงในรัฐสภา เราต้องยุติการสืบต่อ ของเครืออำนาจศักดินา และสร้างประวัติศาสตร์ของประชาชนขึ้นมา ด้วยมือของเราเอง
#วันแรงงานสากล #สหภาพคนทำงาน #โมกหลวงริมน้ำ
โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง
