บทความ

เรื่องเล่าคดีค้ามนุษย์จากคนตายในคุกถึงพลเอกประวิตร


เรื่องเล่าจากคดีค้ามนุษย์จากคนตายในคุกถึงพลเอกประวิตร

ได้มีโอกาสสนทนาพลโทมนัส คงแป้น ระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรมในปี 2560 จึงขอบอกเล่าการสนทนาที่เกี่ยวกับคดีค้ามนุษย์โรฮิงยาในขณะนี้

การนำเสนอเรื่องนี้ จึงอาจถูกโต้แย้งว่าไม่เป็นความจริงกระทั่งถูกฟ้องร้องได้ว่าไม่มีหลักฐานเพราะพลโทมนัส คงแป้น เสียชีวิตไปเสียก่อนระหว่างที่ถูกคุมขัง เป็นการเสียชีวิตแบบเฉียบพลันด้วยปรากฏว่า เป็นคนมีสุขภาพแข็งแรงมาก ทั้งที่ชอบออกกำลังกายและกินอาหารสุขภาพ ไม่มีประวัติการรักษาโรคภัยร้ายแรงที่อาจนำมาสู่การเสียชีวิตมาก่อน

แต่เพื่อประโยชน์ต่อสังคมได้รับรู้เรื่องการค้ามนุษย์และเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่เกี่ยวข้องจึงขอนำเรื่องราวที่ได้จากการสนทนากับพลโท มนัส คงแป้นไว้เพิ่มเติมดังต่อไปนี้

  1. มีการอายัดเงินและทรัพย์ในคดีนี้ รวมยอดเงินหมุนเวียนในการกระทำความผิด รวม 443,389,468 บาทนั้น ไม่ได้มีการสาวไปถึงการส่งส่วยให้คนส่วนอื่นๆ อันที่จริงมียอดเงินที่ถูกส่งไปให้คนใหญ่คนโตระดับสูงทั้งในส่วนของทหาร ตำรวจ และ ผู้มากบารมีการเมือง อีกจำนวนหนึ่งไม่ปรากฏถูกนำมาเกี่ยวข้องในคดีค้ามนุษย์ เฉพาะในส่วนของเงินบัญชีของพลโทมนัส คงแป้น ปรากฏเป็นเงินที่ได้รับมา 14 ล้านบาท ไม่รวมที่พลโทมนัส คงแป้นและคนอื่นๆ นำไปมอบให้นายพลที่เกี่ยวข้องอีกเพราะไม่มีการสอบสวนเชิงลึกเนื่องจากมีคำสั่งให้พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นหัวหน้าทีมสืบสวนคดีค้ามนุษย์ย้ายไปทำงาน 3 จังหวัดภาคใต้จนต้องลี้ภัยไปออสเตรเลียไปเสียก่อน
  2. พลโทมนัส คงแป้น เคยเล่าให้ฟังว่า ได้รับไฟเขียวจากเบื้องบนให้ไปอุ้ม พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งเชื่อมโยงไปถึงคนในระดับสูงของรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง โดยพลโทมนัส ให้ลูกน้องมีฝีมือดี ไปทำการอุ้ม แต่พลโทมนัส ไม่ได้บอกว่าจะไปอุ้มฆ่าหรือเพียงแค่ข่มขู่ ทีมอุ้มลงมือไปถึงหน้าบ้านพล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ แล้ว แต่ไหวตัวหลบหนีไปเสียก่อน เรื่องนี้จริงหรือไม่  พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ น่าจะมีหลักฐาน ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงตามนี้ ก็ขออภัยในคำบอกเล่าครั้งนี้ด้วย เสียดายที่พลโทมนัส เสียชีวิตไปก่อน
  3. พลโทมนัส คงแป้น ใกล้ชิด สนิทสนมกับคนใหญ่คนโตในกองทัพ แกเล่าให้ฟังว่า มีการวิ่งเต้นขอตำแหน่งนายพลกันมาก  จนเกิดตำแหน่งระดับนายพลแบบไม่จำเป็น เช่น ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ ที่ปรึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิ ฯลฯ แกบอกว่าหากไม่มีการวิ่งเต้น ให้มีนายพลตามหน้าที่แล้ว จะสามารถประหยัดงบประมาณแผ่นดินได้ปีละราว 5หมื่นล้านบาททีเดียว เมื่อมีนายพลล้นเกินในกองทัพ เป็นนายพลที่รับเงินเดือน สวัสดิการ โดยมีเวลาว่างมาก จึงสามารถใช้ตำแหน่งนายพลไปรับงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา หรือธุรกิจนอกเหนือไปจากงานในหน้าที่ เช่นไปคุมซ่อง ไปเป็นการ์ด คนทวงหนี้ กระทั่งรับจ๊อบ เป็นมือปืนก็มี ส่วนงานค้ามนุษย์ได้รับการติดต่อให้ช่วยอำนวยความสะดวกการขนส่งจากระนองไปจนสามารถไปถึงมาเลเซีย อินโดนีเซีย ซึ่งเปิดรับชาวโรฮิงญา รวมทั้งประสานงานหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถขนส่งมนุษย์เหล่านี้ไปยังบจุดหมายได้ง่าย
  4. แกบอกว่า ก่อนการเข้ามอบตัวในคดีค้ามนุษย์นี้ คนระดับสูงทั้งในกองทัพและรัฐบาล บอกว่าเป็นแรงกดดันจากอเมริกา กระทบต่อธุรกิจประมงของประเทศไทย กลายเป็นข่าวระดับโลก เพราะพบชาวโรฮิงญาเสียชีวิตกว่า 30 คน ระหว่างการค้ามนุษย์ ขอให้แกยอมไปมอบตัวแล้วจะจัดการหาทางช่วยเหลือกันได้ในภายหลัง แต่พอแกเข้าคุกแล้วคนๆนี้ก็หลบหน้าไม่ยอมให้ญาติและเพื่อนสนิทแก(ยศพลโทเช่นกัน)ไปเข้าพบทวงสัญญาที่ว่านั้น  
  5. มีตำรวจระดับสูงในตม.อาจเกี่ยวข้องค้ามนุษย์ นายตำรวจที่ถูกจับกุมติดคุกอยู่คนหนึ่ง ผมเรียกแกว่า สารวัตรแมว (ไม่ทราบชื่อจริง) เพราะแกชอบเลี้ยงแมวในเรือนจำมาก ขนาดที่บอกผมว่าหากผมได้ออกจากคุกไปแล้ว ให้มารับแมวในเรือนจำของแกที่เลี้ยงไว้ไปดูแล โดยแกมีเงินเป็นค่าจ้างให้ แกเคยบอกว่า มีนายพลตำรวจระดับสูงคนทั้งประเทศรู้จักดี (แกบอกชื่อแต่ผมจำชื่อไม่ได้และนึกเท่าไรก็นึกไม่ออกจริงๆ )ในสังกัดตม.ก็รับส่วยครั้งนี้ด้วย ตอนนี้ทราบมาว่า สารวัตรแมวผู้นี้ สติแตกไปแล้วหลังจากโดนพิพากษามีความผิด
  6. มีหลายคนที่เป็นเพียงเรือรับจ้างในจังหวัดระนอง ( เรียกกันว่า โก นำหน้า )ที่เป็นเพียงแค่รับจ้างตามปกติแต่ก็ถูกลากเข้าเป็นพวกค้ามนุษย์ไปด้วย เพราะคดีนี้ต้องการสร้างภาพว่ารัฐบาลตอนนั้นจริงจังในการปรามปรามการค้ามนุษย์ น่าสงสารที่ถูกตัดสินด้วยโทษจำคุกหลายปี
  7. ขอบอกว่า นี่เป็นเรื่องเล่าจากปากคำของพลโทมนัส คงแป้นที่เสียชีวิตไปแล้ว  จึงไม่ขอยืนยัน ว่าสิ่งที่เล่าให้ฟังเป็นความจริงหรือไม่  วันสุดท้ายที่ต้องลาจากพลโทมนัส คงแป้น แกบอกว่า   ถ้าผมได้รับการปล่อยตัว ให้ช่วยไปหา พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ ด้วยว่าแกสำนึกในบุญคุณเสมอมา ส่วนผมบอกแกว่า วาสนาของผมคงไม่มีโอกาสได้เจอพลเอกประวิตรเป็นแน่แท้  (ต้องขออภัย พลประวิตร มา ณ โอกาสนี้ด้วย ถือเสียว่า ผมได้ทำอะไรบางอย่างตามที่พลโทมนัส ก่อนตายได้ขอร้องให้ผมเอ่ยนามท่านด้วยความรำลึกถึง )

สมยศ พฤกษาเกษมสุข รายงาน 26.4.65

ชาสมุนไพรอาร์ติโช้ค ( Organic Artichoke Tea )ผสมหญ้าหวาน จึงได้ความหวานจากธรรมชาติ
– บำรุงตับ ช่วยกระตุ้นการทำงานของตับ
– ป้องกันตับอักเสบ ตับแข็ง ดีซ่าน ถุงน้ำดีอักเสบ
– ช่วยลดไขมัน และลดคอเลสเตอรอลในเลือด
– ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ลดแก๊สในกระเพาะอาหาร
ใน 1 กล่อง มี 100  ซองเล็ก บรรจุซองละ 200g  ราคา 690 บาท สั่งซื้อเดือนนี้ ลดเหลือ 590 บาท(พร้อมจัดส่ง) ชงแค่วันละ 4 ซอง เติมน้ำได้ตลอด ดื่มได้ทั้งวัน  สั่งซื้อด้วยการโอนเงิน 590.00 บาท (รวมค่าส่ง)ในนามของสมยศ พฤกษาเกษมสุข ธนาคารกรุงไทย บัญชีเลขที่ 198-0-12736-0 ส่งสลิป และแจ้งชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่ง Email มาที่ editor@prakaifai.com หรือโทรศัพท์มาที่ 065-557-5005