แรงงาน

คนงานไทยเก็บเบอร์ลี่ป่าสวีเดน ฟินแลนด์ เดินขบวน เรียกร้องหยุดค้ามนุษย์แรงงานไทย


คนงานไทยเก็บเบอร์ลี่ป่าสวีเดน ฟินแลนด์ เดินขบวน เรียกร้องหยุดค้ามนุษย์แรงงานไทย

งานเก็บผลไม้ป่าสวีเดน-ฟินแลนด์ เป็นงานตามฤดูกาล ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคม- กันยายนของทุกปีโดยในแต่ละปีจะมีคนหางานสนใจไปทำงานกันราว 10,000 คน  เพราะมีค่าจ้าง-สวัสดิการที่สูงมาก ทำให้บรรดาบริษัทจัดหางานเอกชน กินหัวคิวการจัดส่งกระทั่งโกงค่าจ้างไม่เป็นไปตามสัญญาจ้าง โดยที่กระทรวงแรงงานอนุมัติการจัดส่งไปไม่ได้มีการคุ้มครองแรงงาน จนมีการร้องเรียนที่ประเทศฟินแลนด์และสวีเดน ล่าสุดDSIกล่าวหาอดีตรัฐมนตรี 2 คน และผู้บริหารระดับสูง กระทรวงแรงงาน 2 คน ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตาม ม.149/157กรณีกินหัวคิวเฉลี่ยรายละ 3,000 บาท จัดส่งแรงงานไทยกว่า 12000 คนไปเก็บทำงานเก็บผลไม้เบอร์ลี่ที่ฟินแลนด์ เป็นเหยื่อค้ามนุษย์ คิดเป็นเงินกว่า 36 ล้านบาท

(7 ก.พ. 67) ‘เครือข่ายแรงงานเก็บเบอร์รี่ป่าที่สวีเดนและฟินแลนด์’ กว่า 100 คน ประกอบไปด้วยพี่น้องผู้ใช้แรงงานภาคการเกษตรจากหลากหลายจังหวัดทั่วไทย เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ยื่นหนังสือสถานทูต-องค์การนานาชาติ-หน่วยงานรัฐไทย เรียกร้องให้เร่งรัดคดีค้ามนุษย์ เยียวยาคนงานผู้เสียหายและหยุดยั้งขบวนการ ‘เบอร์รี่เลือด’ ชื่อเรียกของวงจรค้ามนุษย์ที่คอยหลอกล่อให้คนไทยไปทำงานต่างประเทศแล้วยัดหนี้ให้ก่อนกลับคนละหลายแสนบาท ส่งผลให้คนงานและครอบครัวต้องเดือดร้อนอย่างร้ายแรง ในขณะที่บริษัทต่าง ๆ นำเบอร์รี่ป่าที่คนงานเก็บไปส่งขายฟันกำไรและแปรรูปเป็นสินค้าราคาแพง.

“นับตั้งแต่ปี 2548 มีเงินจากคนจนในประเทศไทยถูกนำไปอุ้มธุรกิจเบอร์รี่ป่ากว่า 10,000 ล้านบาท”

ทางเครือข่ายได้ประกาศปักหมุดหมายเข้าพบสถานทูตสวีเดน ฟินแลนด์ ตัวแทนสหภาพยุโรป สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน (OHCHR) องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ที่อาคารสหประชาชาติ และปิดท้ายที่ทำเนียบรัฐบาล โดยจะยื่นถึงนายกฯ หัวหน้าฝ่ายค้าน สภาผู้แทนราษฎร รมว. กระทรวงยุติธรรม รมว. กระทรวง พม. และรมว. กระทรวงแรงงาน

อรนุช ผลภิณโญ ขึ้นอ่านข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการซึ่งจะถูกยื่นใส่ซองน้ำตาลเสนอให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติและแก้ไขปัญหาของคนงานอย่างยั่งยืน เนื้อหาดังต่อไปนี้.

1. หยุดระบอบค้ามนุษย์แรงงานไทยไปเก็บเบอร์รี่ที่สวีเดนและฟินแลนด์โดยทันที จนกว่าคนงานที่เสียหายจะได้รับการชดเชย และจนกว่าจะมีการเจรจากรอบกฎหมายแรงงานที่คุ้มครองผลประโยชน์ให้คนงานอย่างเต็มที่.

2. ฟินแลนด์และสวีเดน จะต้องสร้างความมั่นใจว่าจะมีมาตรการเร่งรัดสอบสวนดำเนินคดีกับทุกคนและทุกฝ่ายที่ร่วมกันก่ออาชญากรรมค้ามนุษย์ ทั้งในประเทศไทย สวีเดนและฟินแลนด์ เพื่อคืนความยุติธรรมและชดเชยให้คนงานที่เสียหาย และเพื่อดำเนินคดีกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมการค้ามนุษย์เพื่อให้สอดคล้องกับกลไกปกป้องและดูแลผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่มีกรอบกฎหมายอยู่แล้ว.

3. จะต้องมีการดำเนินการช่วยเหลือทางกฎหมายและทางการเงินแก่แรงงานเก็บเบอร์รี่ชาวไทย ที่คดีการค้ามนุษย์ของพวกเขาอยู่ระหว่างการสอบสวนโดยทางการ พร้อมด้วยจดหมายฉบับนี้ พวกเราขอนำเสนอข้อมูลที่รวบรวมโดยเครือข่ายของเรา เกี่ยวกับความสูญเสียและความเสียหายของแรงงานเก็บเบอร์รี่กว่า 300 คน.

4. เปิดให้มีการเจรจาใหม่ โดยกรอบของวิถีรัฐต่อรัฐ G2G (รัฐบาลต่อรัฐบาล) ทั้งนี้จะต้องยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ โดยที่มีตัวแทนคนงานเก็บเบอร์รี่ป่าเข้าร่วมเจรจาด้วย ต้องมีการกำหนดเป็นพิเศษว่าเป็นนายจ้างจะปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงานด้วยความสุจริตใจ โดยที่นายจ้างจะต้องรับผิดชอบ – ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง, ทั้งต้องจ่ายค่าจ้างที่เหมาะสม, ค่าทำงานล่วงเวลา, ค่าดูแลด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย, โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะไม่สามารถหักออกจากรายได้ของคนงานได้.

5. จนกว่าการสืบสวนคดีอาชญากรรมข้ามชาติในปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรมเบอร์รี่ป่าของสวีเดนและฟินแลนด์ จะดำเนินการสอบสวนจนได้ข้อยุติ อุตสาหกรรมเบอร์รี่ป่าของสวีเดนและฟินแลนด์ ควรถูกขึ้นบัญชีดำโดยสหภาพยุโรป จนกว่าจะมีการวางกรอบกติกาใหม่ที่ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน และปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานของสวีเดนและฟินแลนด์อย่างเคร่งครัด

ล่าสุดเวลา 19.00 น.‘เครือข่ายแรงงานเก็บเบอร์รี่ป่าที่สวีเดนและฟินแลนด์’ ปักหลักชุมนุมค้างคืนกันอยู่ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ทำเนียบรัฐบาล โดยมี เซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล มาพบพี่น้องคนงานเก็บเบอร์รี่ป่าที่แนวกั้นตำรวจใกล้สะพานชมัยมรุเชฐ  โดยในวันพรุ่งนี้จะมีการยื่นหนังสือต่อรัฐบาล และ ฝ่ายค้านในเวลาเช้า โดยจะเคลื่อนขบวนไปต่อกันที่ กระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคม และกระทรวงยุติธรรม